มารู้จักเทพในตำนานคธูลู(บางส่วน)กันเถอะ
อนึ่ง ชื่อต่างๆนั้นผมอาจจะเขียนผิดไปบ้าง แต่ในเมื่อเรื่องบอกว่าชื่อจริงๆของพวกนี้มนุษย์ไม่สามารถออกเสียงได้ก็หยวนๆเถอะนะ
คธูลู
เกรทโอลด์วันซึ่งโด่งดังที่สุด แม้เรื่องในกลุ่มนี้จะถูกเรียกว่าตำนานคธูลู แต่จริงๆแล้วคธูลูไม่ใช่ตัวเด่นของเรื่อง คธูลูเป็นลูกของนุก หนึ่งใน"ความเหลวไหลแฝด" นุกและเยบ คธูลูมายังโลกตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์พร้อมๆกับลูกกระจ๊อกที่ตัวเล็กกว่าซึ่งเรียกว่าStar Spawn of Cthulhu (คธูลิ) คธูลูนั้นเป็นเหมือนหัวหน้านักบวชของยอก โซธอท คธูลิได้สร้างนคร R'lyehไว้กลางมหาสมุทธเป็นที่อยู่ ซึ่งต่อมาดันถล่มจมลงไปในน้ำ ซึ่งคธูลูติดแหงกในสภาพกึ่งตาย(ส่วนคธูลิบางตัวดวงดีรอดมาได้) และเป็นความซวยที่น้ำมหาศาลในมหาสมุทธนั้นเป็นกำแพงธรรมชาติที่ปิดกั้นพลังจิตของคธูลูได้ (ทำให้ต้องติดต่อกับสาวกผ่านความฝันเท่านั้น) ซึ่งเหล่าสาวกของคธูลู (ในโลกนี้ นอกจากมนุษย์แล้วยังมีมนุษย์ครึ่งปลา/กบที่เรียกว่าดีพวันอยู่อีกพวก) นั้นได้แต่รอเวลาที่ดวงดาวอยู่ในตำแหน่งอันเหมาะสมเพื่อปลุกคธูลูขึ้นมาอีกครั้ง กล่าวกันว่าเมื่อคธูลูคืนชีพอย่างสมบูรณ์ก็จะใช้พลังจิตทำให้มนุษย์เสียสติ ไร้ซึ่งความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกันทั้งโลก
อซาธอท
เอาเตอร์ก็อดซึ่งทรงพลังที่สุดในจักรวาล มีฉายาว่าเทพตาบอดผู้โง่เขลา (The Blind Idiot God) ปรมณูแห่งความวุ่นวาย (Nuclear Chaos) และ สุลต่านปิศาจ (the Daemon Sultan) ฉายาแรกนั้นมีที่มาจากลักษณะของอซาธอทที่เอาแต่นอนหลับอยู่ ณ ใจกลางของจักรวาล (ซึ่งเป็นส่วนของจักรวาลที่มีแต่ความวุ่นวาย-chaos แตกต่างจากส่วนของมนุษย์ที่เป็นระเบียบมากกว่า) เป็นเหมือนก้อนมวลสารที่ไร้ความคิด ซึ่งกล่าวว่าเดิมทีนั้นอซาธอทมีสติปัญญาไม่แพ้พลังแต่ต่อมาได้เสียความนึกคิดและจิตใจไปจนเป็นเหมือนปัจจุบัน ที่อยู่ของอซาธอทนั้นจะมีเอาเตอร์ก็อดตนอื่นๆคอยเต้นระบำและเป่าขลุ่ยปิศาจขับกล่อมอยู่เสมอ เชื่อกันว่าเมื่ออซาธอทตื่นขึ้นก็จะทำลายจักรวาลนี้ทิ้ง...หรือบางที จักรวาลนี้เป็นเพียงความฝันของอซาธอท เมื่ออซาธอทตื่นขึ้นจักรวาลนี้ก็จะแตกสลายไปเอง
ไนอาลาโธเทป
เอาเตอร์ก็อดที่มีนิสัยคล้ายมนุษย์ที่สุดเลยถูกใช้เป็นผู้ร้ายบ่อยกว่าเพื่อน ไนอาลาโธเทปเป็นเหมือนผู้ส่งสารระหว่างเหล่าเทพและสาวก (ซึ่งบ่อยครั้งที่ไนอาลาโธเทปจะช่วยเหลือลัทธิต่างๆราวกับเป็นเบ๊) มีฉายาว่าความวุ่นวายที่คืบคลาน (Crawling Chaos) จุดเด่นของไนอาลาโธเทปอยู่ที่ร่างอวตารที่ว่ากันว่ามีอยู่นับพันร่าง ซึ่งบางร่างเป็นมนุษย์ เช่น ฟาโรห์ดำ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชายร่างสูง มีเสน่ห์ รักสนุกและแต่งกายด้วยชุดดำ แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นอสุรกายที่น่ากลัว ซึ่งร่างอวตารเหล่านี้บางครั้งก็มีลัทธิเคารพบูชาแยกกันไป นิสัยที่เป็นจุดเด่นของไนอาลาโธเทปอย่างหนึ่งก็คือไม่ชอบจัดการกับเป้าหมายในทันที แต่ชอบค่อยๆหลอกล่อจนเสียสติเสียมากกว่า บางครั้งไนอาลาโธเทปจะมอบความรู้ด้านเทคโนโลยีหรือเวทมนตร์ที่เป็นอันตรายให้แล้วเฝ้าดูผู้ที่ได้รับสิ่งนั้นไปใช้ในทางที่ผิดและทำลายตัวเองช้าๆ สำหรับไนอาลาโธเทปแล้วมนุษย์ที่มีจิตใจเปราะบางก็คือของเล่นชั้นดี
ไนอาลาโธเทปยังมีหน้าที่รับใช้อซาธอท ซึ่งไม่ว่าอซาธอทจะละเมอไร้สาระแค่ไหน ไนอาลาโธเทปก็ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำให้ลุล่วงอยู่ดี ซึ่งบางครั้งเชื่อว่าไนอาลาโะเทปก็คือจิตที่แยกออกมาของอซาธอทนั่นเอง
ร่างอวตาร "ผู้โหยหอนในความมืด" หรือ "เทพลิ้นโลหิต"
ไนอาลาโธเทปในPersona 2
ชุบ นิกกูรัธ
เอาเตอร์ก็อดที่มักกล่าวถึงในลักษณะของเพศหญิง ชุบ นิกกูรัธมีลักษณะเด่นที่เป็นแม่ลูกดก มีลูกๆอยู่ถึงหนึ่งพันตน ซึ่งคู่หนึ่งในนั้นก็คือนุกและเยบ ซึ่งต่อมาให้กำเนิดคธูลูและฮัสเทอร์ ชุบ นิกกูรัธเป็นต้นกำเนิดของเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ในตำนานต่างๆทั่วโลก ในป่าลึกที่มีลัทธิบุชาชับ นิกกูรัธอยู่นั้น จะมีลูกๆของชุบ นิกกูรัธที่เรียกว่าดาร์คยังอยู่ด้วย ซึ่งในคืนที่มีการบูชายัญสังเวยให้ชุบ นิกกูรัธนั้นดาร์คยังจะเป็นตัวแทนของชุบ นิกกูรัธออกมากินเครื่องสังเวย ซึ่งการสังเวยชุบ นิกกูรัธจะใช้สัตว์ใหญ่ตั้งแต่ม้าขึ้นไปหรือไม่ก็ผู้ที่ไม่ใช่สาวก ฉายาหนึ่งของชุบ นิกกูรัธก็คือแพะดำแห่งป่า แต่เป็นไปได้ว่าแพะดำนี้จริงๆแล้วอาจเป็นเทพตัวแทนอีกตนของชุบ นิกกูรัธ
ดาร์คยัง
ยอก โซธอท
เอาเตอร์ก็อดที่เป็นเจ้าแห่งมิติและเวลาทั้งมวล ยอก โซธอทสามารถรับรู้ความเป็นไปทุกอย่างในจักรวาลนี้ได้และนับว่าเป็นเทพเพียงหนึ่งเดียวที่อาจมีอำนาจเทียบได้กับอซาธอท แต่ด้วยเหตุผลบางประการจึงไม่สามารถปรากฏร่างอย่างอิสระในจักรวาลส่วนที่"เรียบง่าย"ซึ่งมนุษย์อยู่ การทำพิธีเรียกยอก โซธอทสามารถทำได้ตลอดเวลาแต่จะมีโอกาสมากที่สุดในวันที่30 เมษายนและ1 พฤษภาคม (เมย์อีฟ และ แลมมัส) โดยยอก โซธอทจะปรากฏตัวเป็นฟองสบู่หลากสีจำนวนมาก สาวกของยอก โซธอทจะได้รับอำนาจในการควบคุมมิติและเวลาในระดับหนึ่ง แต่ต้องแลกด้วยการเป็นทาสของยอก โซธอทไปตลอดกาล...และสำหรับเจ้าแห่งกาลเวลา คำว่าตลอดกาลก็คือไม่มีจุดสิ้นสุดจริงๆ แม้แต่จุดจบของจักรวาลก็ไม่อาจทำลายพันธะระหว่างยอก โซธอทและสาวกได้
ยอก โซธอทเป็นคู่ของชุบ นิกกูรัธซึ่งให้กำเนิด นุกและเยบ นอกจากนั้นยังกำเนิดลูกแฝดกับสาวกตระกูลแวทลีย์ คนแรกคือวิลเบอร์ แวทลีย์ซึ่งเป็นมนุษย์ที่มีรูปร่างพิลึกพิลั่น กับน้องชายฝาแฝดซึ่งเป็นอสุรกายล่องหน (วิลเบอร์ถูกหมาเฝ้ายามของมหาวิทยาลัยมิสคาโทนิคกัดตายขณะที่แอบเข้าไปขโมยสำเนาของคัมภีร์นีโครโนมิคอน ส่วนน้องฝาแฝดถูกศาสตราจารย์จากมิสคาโทนิคสังหารในภายหลัง)
ฮัสเทอร์
พี่น้องของคธูลู ร่างจริงของฮัสเทอร์ไม่เคยปรากฏแต่เชื่อกันว่าเป็นปลาหมึกตัวมหึมา โดยปกติแล้วจะปรากฏตัวในร่างอวตารเช่น ราชาอาภรณ์เหลือง (The King in Yellow) ลัทธิของฮัสเทอร์นั้นเป็นเป็นศัตรูกับลัทธิต่างๆไปทั่วรวมถึงคธูลูที่เป็นพี่น้อง นอกจากนี้สาวกของฮัสเทอร์ยังตามล่ามนุษย์ต่างดาวโดยเฉพาะมิโกและยิธที่อยู่บนโลกเพื่อเค้นความลับของเทคโนโลยีต่างๆด้วย ถูกขังไว้ในดาวอัลเดบารันของจักรราศีพฤษ
ร่างอวตารของฮัสเทอร์ ราชาอาภรณ์เหลือง (The King in Yellow)
ฮัสเทอร์ใน Persona 2
อุบโบ ซาธลา
หนึ่งในเทพซึ่งอยู่ในถ้ำยิคาใต้ภูเขาวูรมิธาเดรธ มีฉายาว่าต้นตอและจุดจบ มีลักษณะเป็นกลุ่มโปรโตพลาสซึมขนาดใหญ่และให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตระดับจุลินทรีย์ออกจากตัว อุบโบ ซาธลาทำหน้าที่คุ้มกันหินจารึกซึ่งเชื่อว่าบันทึกความรู้ของเหล่าเอลเดอร์ก็อดไว้ แม้จะกล่าวว่าอุบโบ ซาธลาได้ให้กำเนิดบรรพบุรุษของชีวิตทั้งมวลบนโลก แต่สิ่งใดก็ตามที่ถูกหนวดระยางของอุบโบ ซาธลาสัมผัสจะปราศจากชีวิตไปตลอดกาล และในอนาคต อุบโบ ซาธลาจะกลืนทุกชีวิตในโลกเข้ากับตัวเองอีกครั้ง
แอบฮอธ
มีฉายาว่า ต้นตอแห่งความโสโครก มีลักษณะเป็นบ่อของเนื้อสีเทาเหลวซึ่งมีอสุรกายดุร้ายรูปร่างต่างๆกันกำเนิดและคลานออกมาเรื่อยๆ อสุรกายที่เกิดจากแอบฮอธส่วนใหญ่จะถูกแอบฮอธใช้สายระยางและแขนดึงกลับไปแล้วกินเป็นอาหาร ส่วนน้อยที่รอดไปได้นั้นมักอาละวาดไปเรื่อยๆตามสัญชาตญาณ แอบฮอธสามารถใช้โทรจิตสื่อสารกับผู้ที่อยู่ใกล้ได้ เนื่องจากอยุ่ในถ้ำเดียวกับอุบโบ ซาธลาและมีลักษณะคล้ายกันมาก จึงเป็นไปได้ว่าแท้จริงแล้วเทพทั้งสองเป็นสิ่งเดียวกัน
กลาคิ
เป็นทากขนาดยักษ์และมีเงี่ยงอยู่ทั่วตัว ซึ่งเงี่ยงนี้ดูคล้ายโลหะแต่ก็เป็นอวัยวะของกลาคิ กลาคิยังสามารถยืดสายระยางซึ่งมีดวงตาอยู่ที่ปลายออกจากร่างเพื่อใช้มองภายนอกขณะที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเลสาบในหุบเขาเซเวิร์น ซึ่งเชื่อกันว่าทะเลสาบนี้เกิดจากอุกกาบาตซึ่งขังกลาคิไว้ตกลงมาบนโลก กลาคิจะหาสาวกของตนโดยการใช้เงี่ยงเสียบสังหารมนุษย์และฉีดสารเคมีซึ่งทำให้ฟื้นขึ้นมาเป็นทาสผีดิบ กลาคิเป็นเทพที่มีความรู้โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับเทพตนอื่นๆที่อยู่ในหุบเขาเซเวิร์น สาวกผีดิบของกลาคินั้นได้รับความรู้นี้มาจากกลาคิด้วย ซึ่งขณะที่กลาคิหลับและเหล่าสาวกไม่ถูกควบคุมได้ช่วยกันเขียนคัมภีร์สำคัญจากความรู้ที่ได้นี้ คือ วิวรณ์แห่งกลาคิ (The Revelations of Glaaki)
ยิโกลูนัค
เทพแห่งความวิปริตและลามก ถูกขังไว้หลังกำแพงอิฐในซากโบราณสถานลึกลับ แต่สามารถเรียกมาได้โดยการอ่านชื่อของยิโกลูนัคที่เขียนไว้ในคัมภีร์วิวรณ์แห่งกลาคิ (แค่อ่านก็พอ ไม่จำเป็นต้องออกเสียง) ซึ่งยิโกลูนัคจะสิงร่างของมนุษย์และแปลงเป็นชายร่างอ้วนไม่มีหัวแต่มีปากอยู่ที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง ยิโกลูนัคเป็นหนึ่งในเกรทโอลด์วันไม่กี่ตนที่สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ ยิโกลูนัคจะตามหามนุษย์ที่ชมชอบเรื่องวิปริตลามกขั้นรุนแรง(ประมาณโลลิกุโร)เพื่อให้เป็นบริวาร ผู้ที่เรียกยิโกลูนัคมาอาจจะได้รับข้อเสนอให้เป็นนักบวชของยิโกลูนัคหรือถูกกินเป็นอาหาร
ดราเอมอธ
เกรทโอลด์วันซึ่งมาจากอนาคต ส่วนท้องของดราเอมอธเป็นช่องทางไปยังมิติเวิ้งว้างซึ่งดราเอมอธใช้เก็บวัตถุอาถรรพ์ไว้สารพัด ดราเอมอธมักปรากฏตัวต่อสาวกพร้อมยื่นข้อเสนอเหมือนจะช่วยเหลือแต่แท้จริงแล้วก็เป็นพวกที่ชอบเฝ้ามองผู้ที่ได้ของนั้นไปทำลายตัวเองเหมือนไนอาลาโธเทป บางครั้ง ดราเอมอธจะพาสาวกไปยังอดีตกาล ดวงดาวอื่น หรือแม้แต่มิติคู่ขนานเพื่อให้ทำลายลัทธิของเทพอื่นๆและหันมาบูชาดราเอมอธแทน ปกติแล้วดราเอมอธจะใช้ภาพลวงตาที่ดูไม่มีพิษภัยซ่อนรูปลักษณ์ที่แท้จริงไว้
...รู้สึกตัวสุดท้ายจะมีอะไรผิดปกติ แต่ช่างมันเถอะ
เครดิตรูป
วิกิพีเดีย
เว็บไซต์สาวกแห่งทุลชาห์ http://members.shaw.ca/csstrowbridge/Tulzscha/MainPage.htm
Nottsuo's Thing http://homepage3.nifty.com/nottsuo/
เมกาเทนวิกิhttp://www.popanime.net/megami/wiki/index.php?title=Main_Page
Miscellaneous