TWO? Part II Episode1 Act5 : ลองของ…ลองดี…ตีกันเพราะทาโกะยากิ!

[font color=blue size=3]TWO? Part II Magical Faculty of Metropolitan University[/font]




[font color=orange size=4]Episode 1 Freshy Festival[/font]




[font color=purple size=5]Act 5 ลองของ…ลองดี…ตีกันเพราะทาโกะยากิ![/font]




- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -




"คราวนี้ก็ถึงตาของหวานล่ะ!"

เมื่ออาหารบนโต๊ะหมดเรียบ หญิงสาวก็ลุกขึ้นอีกคราในขณะที่อีกสองหน่อลุกไม่ขึ้น เพราะข้าวกลางวันกำลังจะล้นหลอดอาหารออกมาทางที่ยัดเข้าไปอยู่รอมร่อ



เมื่อเดินไปยังร้านขายทาโกะยากิกับโอโคโนะมิยากิชื่อดังของแคนทีน สาวผมทองซึ่งอิ่มหนำสำราญดีแล้วเลยมีอารมณ์ต่อคิว ก็เพ่งนัยน์ตาสีฟ้าสดไปยังร่างบอบบางซึ่งอยู่ในแถวก่อนตนอีกสองคน สาวนางนั้นกำลังต่อปากต่อคำกับคุณพี่เจ้าของร้านอย่างดุเดือด เรื่องทาโกะยากิกล่องสุดท้ายที่ไม่ยอมขาย



เมื่อเรื่องราวนั้นเกี่ยวพันถึงอาหารจานโปรดอีกอย่างหนึ่งของตน แม่ตัวแสบจึงตัดสินใจลัดคิวไปกระแซะร่างบางอีกรอบ และหยิบทาโกะยากิไปหน้าตาเฉย แต่คราวนี้คุณหนูผู้พิลึกกึกกือไม่ยอมปล่อยให้เส้นเลือดปูดโปนเป็นครั้งที่สามแล้ว จึงคว้าไหล่เล็กแต่แข็งแกร่งไว้



"ใจคอจะแซงคิวฉันไปอีกกี่ครั้งถึงจะพอใจกันแน่!"

เสียงแหลมใสแบบคุณหนูจอมเอาแต่ใจ ทำให้หญิงสาวฟันธงได้ว่า แม่คนนี้ต้องเป็นลูกผู้ดีตีนแดง และเพิ่งมาเหยียบแคนทีนนี้เป็นแน่ จึงตัดสินใจอธิบายระเบียบการซื้ออาหารลือชื่อให้ฟัง แต่ภาษาและน้ำเสียงที่ใช้ผิดกาละเทศะไปหน่อย เลยกลายเป็นว่าหญิงสาวเยาะหยันความบ้านนอกคอกนาของคุณหนูลายตารางหมากรุกเสียนี่



"ปากอย่างนี้มาสู้กันเลยดีกว่า!"

ร่างแบบบางตรงหน้าสะบัดเสียงด้วยท่าทางเอาจริง จนร่างเล็กกะทัดรัดอึ้งไปชั่วนกกระจอกกินน้ำ ก่อนตั้งคำถามที่ทำเหล่าคนมุงฮาครืน



"เพื่อทาโกะยากิกล่องเดียวนี่นะ?"

หากเป็นเมื่อก่อนหญิงสาวคงรับคำท้าไปแล้ว แต่ในเมื่อคู่กรณีเป็นหญิง มิใช่ชายฉกรรจ์ชอบประกาศศักดาจากคณะอื่น และยังมีน้องแฟมนั่งตาแป๋วจ้องการวิวาทเรื่องอาหารอยู่อีก ลาลูนจึงเลือกเตือนสติอีกฝ่ายให้นึกถึงสายตาคนรอบข้างบ้าง แต่ดูเหมือนอาการโมโหหิวของอีกฝ่ายจะอยู่เกินการควบคุมของหิริโอตับปะเสียแล้ว คุณหนูจึงสวมหมวกอีกครั้งและเดินนำไปข้างนอก คราวนี้มีหญิงสาวใส่ชุดคนรับใช้ท่าทางเจ้าระเบียบเดินมาพูดกับแม่ตัวแสบด้วย



"ถ้าแน่จริงก็ตามเพื่อนฉันออกไปสู้กันสิ"

เป็นอีกครั้งที่หญิงสาวใช้ดวงตาสีเดียวกับฟากฟ้ายามทิวาพินิจพิจารณาผู้มาใหม่ เส้นผมสีน้ำเงินเข้มรวบลวกๆไว้ด้านหลัง ปลายผมระเรี่ยบั้นท้ายกลมกลึง ปล่อยผมม้าชี้โด่เด่อยู่ข้างแก้ม ดวงตาสีดำเหมือนคุณหนูคนนั้นสำแดงความจริงจัง สายตาคมปลาบที่จ้องตรงมา ราวกับจะสื่อความนัยว่า หากแม่ตัวแสบไม่ออกไป ได้โดนเจ้าหล่อนส่งด้วยบาทาเป็นแน่…



[font size=2 color=blue]หน้าแคนทีน01[/font]

สองหญิงสาวยืนประจันหน้ากันในระยะห่างห้าเมตร...

นางหนึ่งร่างสูงโปร่ง บอบบางราวตุ๊กตาแก้ว สวมใส่เสื้อผ้าลายตารางหมากรุกและหมวกปีกกว้าง รองเท้าผ้าหุ้มส้นลายตารางหมากรุกสีเดียวกับชุด...

อีกนางนั้นก็สวมชุดกระโปรงแขนกระปุกเสมอศอก ชายพลีตสีดำยาวพอดีเข่า รองเท้าบูทหุ้มข้อส้นเตี้ยทำด้วยผ้ายางยืดสีดำสนิท ดูแล้วทะมัดทะแมงกว่าอีกฝ่ายมาก...

และไม่มีคนมุงผู้ใดจินตนาการออกเลยว่าการสู้รบของสองสาวนี้จะเป็นอย่างไร ตบตีเยี่ยงนางร้ายในละครน้ำเน่า หรือด่ากันฉอดๆเหมือนแม่ค้าตลาดสด แต่ไม่ว่าอย่างไรถ้าหนึ่งในนั้นคือลาลูน…สตรีที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงความร้ายกาจตั้งแต่ยังเป็นเฟรชชี่แล้ว ทุกคนล้วนอยากชมมวยคู่นี้ยิ่งนัก



"เริ่มได้หรือยัง?"

สาวผมทองถามห้วนๆ เมื่อนึกถึงทาโกะยากิที่ฝากเพื่อนชายไว้จะเย็นก่อนได้ลิ้มลอง



"ได้เลย"

พริบตาที่อีกฝ่ายกล่าวจบ เงาสีดำสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามา แน่นอนว่าแสงแดดยามบ่ายต้นๆสว่างเพียงพอที่จะสรรสร้างเงาได้ แต่คงไม่มีเงาใดตั้งฉากกับพื้นดิน และต่อต้านแรงดึงดูดได้เช่นนี้!?!



เสียงฮือฮาจากคนมุงทำให้แม่ตัวแสบได้สติ บางทีคุณหนูคนนี้คงไม่ธรรมดาอย่างที่คิดกระมัง มิคาเอลซึ่งเดินออกมาดูลาดเลาพร้อมทาโกะยากิในมือรีบตะโกนบอกเมื่อตระหนักชัดถึงตัวตนแท้จริงของเงาดำนั้น



"ระวังนะ ลาลูน! มันคือคำสาปมีชีวิต ถ้าพุ่งเข้าร่างเธอได้เมื่อไรเธอต้องป่วยหนักเจียนตายแน่!"

คราวนี้เสียงฮือฮาพร้อมสายตาของคนมุงพุ่งไปยังดาวมหาวิทยาลัยแทน ไม่มีใครในสถานศึกษารับรู้ชีวิตเบื้องหลังเจ้าของดวงตาสีม่วงเฉกเช่นพรรคพวกของแม่ตัวแสบ เมื่ออีกฝ่ายรู้จักสิ่งพิศดารแปลกประหลาดสำหรับมนุษย์ธรรมดาเช่นนี้ ย่อมประหลาดใจเป็นปกติ และไม่ช้าคงเป็นหนึ่งในทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ประจำสัปดาห์



"ขอบใจนะที่บอก"

สาวผมทองยังคงสงบเยือกเย็นอยู่ได้ แม้ร่างกายจะหลบหลีกได้อย่างคล่องแคล่ว แต่หากไม่สามารถกำจัดได้ก็ไม่อาจยุติศึกบ้าๆนี้เช่นกัน ขณะคิดคำนึงถึงเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้นั้น แม่สาวอ้อนแอ้นก็ชี้ไม้กายสิทธิ์ที่ไม่ยาวไปกว่าไม้บรรทัดขนาดมาตรฐาน ปล่อยแสงสีเขียวใส่แม่ผมสีดอกทานตะวัน ขณะเล่นวิ่งไล่จับกับเงาดำจนหลงลืมศัตรูที่แท้จริงได้ตรงขาสองข้างอย่างผีจับยัด



"ขยับไม่ได้!"

สาวร่างเล็กตื่นตระหนกเมื่อขาไม่ขยับไปตามใจคิด เงาดำซึ่งกระแทกลงบนพื้นดินจนกระจาย ค่อยๆรวบรวมเศษเสี้ยวเป็นรูปร่างอีกครั้งและพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว!?!



สัญชาตญาณซึ่งแทรกอยู่ในทุกอณูของสาวผมทอง สั่งการมือซ้ายที่ประดับแหวนทองคำฉลุลวดลายงดงามอย่างน่าประหลาดบนนิ้วนางขึ้นมาขวางหน้าคำสาปทมิฬไว้…



[font size=5 color=red]แว้บ[/font]

ม่านพลังสีทองแผ่กระจายออกจากแหวน และปกป้องผู้สวมใส่จากทุกทิศทางในรูปลักษณ์ครึ่งวงกลม ทุกคนที่รายล้อมต่างตะลึงงันกับเหตุการณ์เหลือเชื่อตรงหน้า แม้แต่คู่กรณีและเพื่อนสาวยังชะงักงัน รวมถึงมิคาเอลที่เตรียมใจบริจาคผงวิเศษของภูตเอลฟ์ไว้รักษาแฟนสาว และฮิคารุซึ่งจ้องมองการต่อสู้อย่างเฉยเมย ยังเบิ่งตาสีแดงใสดุจทับทิมในเรื่องไม่คาดคิดเช่นนี้



"คราวนี้ตาฉันล่ะ!"

ความคิดที่ชะงักงันของทุกคนคือโอกาสทองอันน้อยนิดของลาลูนผู้รับรู้แล้วว่าคู่ต่อสู้ครั้งนี้คือแม่มดมนต์ดำ หญิงสาวแสยะยิ้มอย่างมีชัย เมื่อรวบรวมแสงสีทองไว้ยังกำปั้นซ้าย และชกใส่คำสาปที่พุ่งเข้ามาอีกครั้งเมื่อม่านพลังหายไป



สีดำที่เคลื่อนไหวได้นั้นแหลกสลายหายไปในแสงแดดแผดจ้า ขณะคู่ต่อสู้ชะงักงันต่อภาพการสูญเสียสิ่งที่สร้างตรงหน้า สาวแสบก็ส่งหมัดขวาซึ่งเปล่าเปลือยซัดเข้ากระโดงคางจนร่างบางล้มสลบสไล



"โดนิซ!"

เพื่อนสาวในชุดคนรับใช้รี่เข้ามาดูอาการ เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักคางแตกก็ตวัดสายตาดุดันมายังคนทำทันควัน แต่สาวผมทองก็จ้องกลับด้วยสายตาเป็นนัยว่า "แพ้แล้วจะชวนตีต่อเหรอ" และดูเหมือนหญิงสาวนางนั้นจะเข้าใจจึงหันไปสนใจเพื่อนรักต่อ



หญิงสาวผมดำยาวระพื้นนั่งพับเพียบ ประคองศีรษะร่างอรชรน่าทะนุถนอมไว้บนตัก ก่อนใช้เล็บนิ้วชี้ข้างขวาวาดลวดลายเป็นสัญลักษณ์ภาพบางอย่างในอากาศเหนือปากแผล สัญลักษณ์นั้นสร้างแสงสีขาวบริสุทธิ์ซึ่งเห็นได้ชัดแม้ในแสงแดดอันร้อนแรงเช่นนี้ สาดส่องไปยังบาดแผลบนใบหน้าคุณหนูร่างโปร่งบาง เมื่อสัญลักษณ์พร้อมแสงสลายไป แผลที่คางก็หายไปด้วยเช่นกัน…



เหตุการณ์นี้สร้างความฮือฮามากมายแก่คนรอบข้าง ร่างของคู่กรณียังไม่ได้สติ แต่สาวผมดำก็ประคองขึ้นมาพาดไหล่ และจ้องหน้าลาลูนด้วยสายตาจริงจัง



"ฉันชื่อมาโฮโร และเพื่อนของฉันคือโดนิซ พวกเราเป็นนักเรียนคณะเวทมนตร์ศาสตร์ที่เพิ่งย้ายมาจากวิทยาเขตเดดวัลเล่ย์ ขอยอมรับว่าเธอแน่มากที่ใช้มือเปล่าจัดการเพื่อนฉันซึ่งอยู่ปีสามได้ แม้จะใช้แหวนวิเศษนั้นเป็นเครื่องทุ่นแรงก็ตาม แต่ขอบอกก่อนนะว่าโดนิซไม่ได้ใช้คำสาปรุนแรงอะไร แค่ให้เธออาหารเป็นพิษ กินอะไรไม่ได้ไปสักเจ็ดวันเท่านั้นเอง"

หญิงสาวที่ประกาศตัวว่าชื่อมาโฮโรร่ายยาวรวดเดียวจบ และประคองเพื่อนรักจากไปอย่างสง่างาม สร้างความรู้สึกว่าตนเองเป็นนางร้ายรังแกนางเอกผู้อ่อนแอ แก่แม่สาวผมทองอย่างรุนแรง แต่แล้วจิตสังหารจากเบื้องหลัง ก็ปลุกเร้าสัญชาตญาณให้กระโดดหลบไปด้านข้างได้ทันในสภาพคลุกฝุ่น



[font size=5 color=red]กรร![/font]

คนมุงแตกฮือเมื่อพบเจอเรื่องเหลือเชื่อครั้งที่สามติดๆกัน คราวนี้เป็นหมาดำตัวใหญ่ นัยน์ตาสีฟ้าสดเรืองรองทอประกายสวยงาม แต่เขี้ยวขาววาววับและน้ำลายที่หยดทีหนึ่ง พื้นคอนกรีตก็เป็นหลุมลึกขนาดยัดมะนาวลงไปได้ ทำให้หญิงสาวไม่อาจชื่นชมสิ่งมีชีวิตจากนรกตัวนี้ลง



"พี่เรนซ์!"

มาโฮโรส่งเสียงสั่นสะท้าน...

ร่างรุ่นพี่ปริญญาโทวัยเบญจเพศซึ่งใบหน้าเรียบเย็นเป็นนิจ แต่ยิ้มแย้มเมื่อโลหิตชาวบ้านหลั่งไหล ดวงตาสีฟ้าดุจน้ำทะเล ณ หาดเจ้าไหมที่ทอประกายอำมหิตบ่อยครั้งเมื่อนึกเบื่อหน่ายความสงบสุขนั้น บัดนี้สุกใสเป็นประกายอย่างพึงใจเสียงอื้ออึงอันหวาดกลัวรอบด้าน เส้นผมสีน้ำตาลอมแดงซอยสั้นประบ่าพลิ้วไหวตามสายลมแรง เมฆฝนสีเทาก้อนใหญ่บดบังแสงอาทิตย์เสียสิ้น ดุจรังสีอันมืดมิดจากร่างจอมเวทย์คนใหม่สามารถสร้างความหวาดกลัวแก่สุริยาได้ดังนั้น



เจ้าแม่ECON(อีค่อน)จ้องผู้ลอบกัดลับหลังด้วยสายตาอำมหิตพอกัน บัดนี้ลาลูนคงหลงลืมความสงบสุขไม่กี่สัปดาห์นับจากเสร็จสิ้นการประลองมอทัล ไฟติ้ง ทัวร์นาเมนท์เมื่อเดือนที่แล้วเป็นแน่ โทสะที่ลุกโชนในเนตรสีนภาเมื่อตวัดไปยังสุนัขจากนรกนั้น เพียงทำให้เจ้าของหมาผุดยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่ง และยิ้มนั้นช่างเลือดเย็นเสียจริง…

Fiction

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา