Lunae’s Fairytale : Rapunzel ฉบับ Full Metal Alchemist

นอกเรื่อง

วันที่ไปเทรดโดจินFMAจากงานCMTมาอ่าน Aerith_chanถามว่า…

"ทำไมหนูน้อยหมวกแดงไม่Y!?!"



/me แอริทจังเปี่ยนไป๋ ‘ ‘



เข้าเรื่อง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…

ในหมู่บ้านเล็กๆชื่อ Rizenbul สองสามีภรรยาตระกูลElricอาศัยอยู่อย่างผาสุกมาหลายปี แม้ทั้งสองจะมีฐานะร่ำรวยแต่ก็ไร้ทายาท ฝ่ายสามีHohenheimทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้บุตรอยู่หลายปีแต่ก็ไม่เคยสำเร็จ จนกระทั่งได้ยินคำเล่าลือถึงถั่ววิเศษของพ่อมดคนหนึ่ง หากหญิงใดกินเข้าไปต้องตั้งครรภ์อย่างแน่นอน ดังนั้นโฮเฮนไฮม์ เอลริค จึงไม่รอช้า เขารีบดำเนินการลักลอบเข้าไปเก็บเมล็ดถั่วจากสวนของพ่อมดผู้ใช้ไฟคนดังกล่าว มาให้ภรรยาสุดที่รักกินทันที



หลังจากนางTrishaผู้เป็นภรรยากินถั่วต้มจากไร่ของพ่อมดไปสองฝัก เพียงเก้าเดือนให้หลัง ก็คลอดเด็กชายฝาแฝดผู้มีสีผมสีตาดั่งแร่ธาตุล้ำค่ารหัส Au จากผืนดิน สองสามีภรรยาเอลริคดีใจมาก และตั้งชื่อให้เด็กน้อยว่า Edward กับ Alphonse



แต่ทั้งสองมีโอกาสชื่นชมฝาแฝดหน้าตาน่ารักน่าชังได้ไม่นาน เจ้าของถั่วแระญี่ปุ่นสองฝักก็ตามมาทวงหนี้ถึงบ้าน



"กล้ามากนะที่บุกรุกสวนครัวของฉัน! วันนี้คงต้องขอทวงทั้งต้นทั้งดอกล่ะนะ!!"

พ่อมดเจ้าของฉายา Flame Alchemist ผู้เลื่องชื่อเรื่องการจุดไฟในการกระดิกนิ้วเพียงครั้งเดียวทำหน้าเหี้ยม ขณะจ้องมองสองสามีภรรยาเอลริคที่โอบอุ้มลูกน้อยไว้ดั่งจงอางหวงไข่



"ถ้าเงินล่ะก็จะเอาไปเท่าไรก็ได้ แค่ค่าถั่วสองฝักคงไม่แพงนักหรอกนะ"

Hohenheim ทำหน้าเคร่งขณะกอดอัลฟอนเซ่วัยเพิ่งสามเดือนไว้แนบอก



"เงินต้นน่ะไม่เท่าไรหรอก แต่ดอกเบี้ยนั้นแพงเท่าหนึ่งชีวิตทีเดียว!"

Flame Alchemist ทำหน้าเจ้าเล่ห์เมื่อเหลือบเห็นร่างทารกน้อยในอ้อมอกของนางทริชชา



"จะเอาชีวิตเราไปก็ได้ แต่ห้ามแตะต้องลูกชายทั้งสองของฉันเด็ดขาด!"

ราวกับสายตาของพ่อมดหน้าตี๋จะบอกความในใจได้ นางเอลริคกอดลูกน้อยแนบแน่นพลางกล่าวดักคอผู้บุกรุก



"คงไม่ได้หรอก เพราะลูกชายของพวกเธอเกิดมาจากถั่วที่ฉันปลูกด้วยกรรมวิธีพิเศษนี่ คงต้องขอไปเอ็นดูสักคนแล้วล่ะ"

ในที่สุดพ่อมดก็ออกลาย และสองสามีภรรยาเอลริคต้องจำใจมอบเอ็ดเวิร์ดน้อยให้ มิเช่นนั้นอาจต้องสูญเสียทายาททั้งสองคน แต่บิดาของสองเด็กน้อยก็ยังตั้งความหวังไว้ว่า สักวันบุตรชายที่เหลือต้องไปช่วยพี่ชายกลับมาจากเงื้อมมือพ่อมดโฉดได้แน่นอน



เมื่อพ่อมดได้เด็กน้อยเอ็ดเวิร์ดมาไว้ในกำมือแล้ว ก็นำกลับรังไปเลี้ยงดูอย่างดีโดยให้เด็กชายเรียกตนว่า "ป๊ะป๋า" และมีลูกสมุนทั้งหก ได้แก่ Hughes, Hawkeye, Farman, Havoc, Fury, and Breda คอยดูแลเด็กน้อยราวเจ้าหญิง พร้อมสั่งสอนเวทมนตร์คาถาอย่างเต็มพิกัด



11ปีผ่านไป…

เอ็ดเวิร์ดตัวน้อยกลายเป็นพ่อมดอัจฉริยะฉายา Full Metal Alchemist ความสามารถอันไร้ขีดจำกัดนั้นทำให้ชื่อเสียงระบือไกลและเป็นไปในทางที่ดีกว่า Roy Mustang ผู้เป็นอาจารย์มากนัก ยิ่งเด็กน้อยอายุมากขึ้นเพียงใดก็ยิ่งว่านอนสอนยากมากขึ้นเท่านั้น จนสุดท้ายถึงกับใจกล้าใช้คำต้องห้ามต่อ [font color=pink]"ป๊ะป๋า"[/font] โดยเปลี่ยนสรรพนามเป็น [font color=red]"เจ้าหัวลูกชิ้น"[/font]



เมื่อเด็กน้อยที่หมายมั่นปั้นมือจะเลี้ยงเพื่อเป็นศิษย์เอก และจับกด(?)เมื่อโตได้ที่(แต่ไม่เห็นจะสูงขึ้นเสียที)แข็งข้อขนาดนี้ ความอดทนของพ่อมดหน้าเลือดก็เป็นอันสิ้นสุด จึงใช้ความสามารถตามฉายาอบศิษย์รักพอหอมปากหอมคอ และหิ้วไปขังไว้บนหอคอยสูงมาก ทางขึ้นลงมีเพียงหน้าต่างบานเดียวของคุกกลางฟ้าแห่งนั้น โดยพ่อมดโฉดเล่นแร่แปรธาตุกับผมเปียของลูกบุญธรรมให้ยืดยาวถึงพื้นดินเมื่อได้ยินเสียงตน เพื่อใช้เป็นบันไดไต่ขึ้นมาทุกค่ำคืน และเปลี่ยนโฉมหน้าเป็นปีศาจร้ายคอยเยาะเย้ยถากถางตลอดเวลา ด้วยคำพูดเช่น "เจ้าเตี้ย" "เจ้าตัวเล็ก" "หนูน้อยเมล็ดถั่ว" "เจ้าเหล็ก" เป็นต้น...



เอ็ดเวิร์ดแค้นใจ จนอยากตะบันหน้าอาจารย์ตัวแสบยิ่งนัก แต่จำต้องทนเพราะอีกฝ่ายยังใจดีขนอาหารมาให้กิน มิเช่นนั้นคงต้องอดตายกลายเป็นผีเฝ้าท้องฟ้าแน่นอน ถึงจะต้องกล้ำกลืนฝืนกินนมสูตรเร่งสีเร่งสูงที่อาจารย์พยายามยัดเข้าปากก็ตามที



ด้านอัลฟอนเซ่ น้องชายฝาแฝดของ Full Metal Alchemist ก็ร่ำเรียนวิชาเล่นแร่แปรธาตุตามคำสั่งเสียของบิดาที่ด่วนจากไปจนเก่งกาจไม่แพ้พี่ชาย เด็กน้อยออกเดินทางตามหาพี่ชายที่ถูกลักพาไปตั้งแต่ยังแบเบาะเพื่อพามาพบมารดาซึ่งกำลังป่วยหนัก เส้นด้ายเพียงหนึ่งเดียวที่เหนี่ยวรั้งชีวิตของนางเอลริคไว้ ก็คือลูกชายคนโตที่จากอ้อมอกไปก่อนเวลาอันควรนั่นเอง



เด็กน้อยผู้มีสีผมสีตาอ่อนกว่าพี่ชายฝาแฝดเล็กน้อย ซ่อนร่างน่ารักน่าชังไว้ภายในชุดเกราะขนาดยักษ์ เพื่อปกปิดฐานะไม่ให้ศัตรูรู้ และติดตามเบาะแสจากชื่อเสียงของพี่ชาย จนในที่สุดก็ตีซี้กับ Fury หนึ่งในสมุนของพ่อมดตาตี่ได้สำเร็จ



ข่าวเคราะห์ร้ายของพี่ชายที่ถูกจับขังบนหอคอย แถมด้วยแรงปรารถนาที่รอคอยมาแสนนานของ พ่อมดหัวลูกชิ้นจากปากคำของสมุนผู้ไร้เดียงสา ทำให้หนูน้อยอัลฟอนเซ่ตัดสินใจว่า ต้องรีบช่วยเหลือพี่ชายที่จำหน้ากันไม่ได้แล้วอย่างเร่งด่วน เพราะความอดทนของพ่อมดโฉดใกล้จะหมดลงในไม่ช้า



ต่อมา…

อัลฟอนเซ่ไปยืนอยู่ใต้หอคอยที่พี่ชายถูกขังอยู่ จากนั้นก็เปิดเทปที่อัดเสียงของพ่อมดหัวงูไว้

"เอ็ดเวิร์ด จงปล่อยผมเปียลงมา"



หนูเอ็ดเวิร์ดผู้น่าสงสารค่อยๆหย่อนผมลงจากหน้าต่างอย่างงัวเงีย ในใจก็นึกแช่งชักหักกระดูกพ่อบุญธรรมจอมโหดที่มาปลุกตอนเที่ยงตรง ทั้งที่เพิ่งจะกลับไปเมื่อรุ่งสางแท้ๆ



แต่เมื่อผู้มาเยือนกลับกลายเป็นชุดเกราะขนาดใหญ่ก็ทำให้เด็กชายไหวตัวเยือก คิดว่าคนร้ายมาลอบฆ่าเพราะความมีชื่อเสียงของตนเสียนี่!



"พี่ชาย"

เสียงใสๆของเด็กวัยเดียวกับตนเล็ดลอดออกมา พร้อมร่างเล็กๆก้าวออกจากชุดเกราะนั้นได้ทันเวลาที่ Full Metal Alchemistจะสร้างมีดแหลมๆมากะซวกให้ทะลุ



เพียงทั้งสองพบหน้ากัน ความผูกพันตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาทำให้รำลึกถึงสายเลือดเดียวกันได้ทันที สองฝาแฝดจึงโผเข้ากอดกันอย่างโหยหา



"อัลฟอนเซ่!"



"พี่เอ็ดเวิร์ด!"



หลังจากสองพี่น้องรำพึงรำพันถึงความโศกเศร้าที่ต้องจากกันตั้งแต่แบเบาะเป็นเวลาหลายชั่วโมงเรียบร้อยแล้ว หนูน้อยอัลฟอนเซ่ก็เล่าเรื่องอาการป่วยใกล้ตายของมารดาให้ฟัง และชักชวนให้หนีตามกันไป แน่นอนว่าเอ็ดเวิร์ดเห็นด้วยในทันที เพราะใจก็อยากหนีอยู่แล้วแต่ไม่มีใครช่วยเหลือสักคน เด็กน้อยจึงตัดผมเปียที่ยืดยาวออกแขวนไว้กับตะขอริมหน้าต่าง จากนั้นจึงค่อยๆไต่ลงไปกับน้องชายที่ถอดชุดเกราะออกแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักเกินจนผมเปียขาด



สองพี่น้องโชคดีมากที่หนีหายไปได้หลายวัน เพราะช่วงนั้นท่านFlame Alchemistผู้มีชื่อฉาวโฉ่ ต้องไปสู้รบปรบมือกับพวกไม่เจียมตัว ชอบท้าประลองโดยไม่ดูเงาหัวตัวเองเป็นสัปดาห์ กว่าจะกลับมาเยี่ยมเยือนศิษย์รักด้วยความคิดถึงอย่างแรงกล้าก็ไม่เหลือร่องรอยให้ติดตามเสียแล้ว นอกจากชุดเกราะที่อัลฟอนเซ่ถอดทิ้งไว้ ตราประจำตระกูลเอลริคบนชุดเกราะนั้นทำให้พ่อมดหน้าตี๋เดาเรื่องได้อย่างไม่ยากเย็น และออกติดตามศิษย์ทรยศด้วยอารมณ์เดียวกับนางผีเสื้อสมุทรออกตามหาสามีที่หนีไปกับเมียน้อยเลยทีเดียว…



เมื่อพี่น้องเอลริคกลับไปถึงบ้านเกิดก็ทันฟังคำสั่งเสียสุดท้ายของมารดาพอดี ความเศร้าเสียใจถาโถมสองพี่น้องจนไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร นอกจากนั่งเฝ้าหลุมศพของมารดา ด้วยเหตุนี้ไม่นานนัก บิดาบุญธรรมและอาจารย์ของเอ็ดเวิร์ดก็ตามหาเจอได้อย่างง่ายดาย



อัลฟอนเซ่ซึ่งรู้จุดประสงค์แท้จริงของพ่อมดหัวงูจึงตั้งใจปกป้องพี่ชายเต็มที่ แต่ก็สู้ไม่ได้เพราะอ่อนประสบการณ์กว่ามาก แม้เอ็ดเวิร์ดจะร่วมมือด้วยก็ยังมิอาจเอาชนะได้ เพราะแม้เด็กชายจะสามารถร่ายมนต์โดยไม่ใช้วงเวทย์ แต่ก็ไม่ทันการสร้างไฟในหนึ่งวินาทีของอาจารย์อยู่ดี สองพี่น้องจึงสะบักสะบอมด้วยโทสะที่กลายเป็นเปลวเพลิงของFlame Alchemistอย่างไร้ทางต่อกร



ขณะที่พ่อมดโฉดกำลังคิดวิธีจัดการเด็กชายฝาแฝดที่หน้าตาคล้ายคลึงกันแต่น่ารักน่าจับกดไปคนละแบบอยู่นั้น เจ้าชายขี่ม้าขาวก็ปรากฎกายพอดี…



เจ้าชายผู้มีรอยแผลเป็นรูปกากบาทขนาดใหญ่กลางแสกหน้าใช้มือขวาข้างเดียวกำจัดพ่อมดไฟลงได้ในพริบตา พร้อมประโยคเด็ดก่อนปลิดชีพคู่ต่อสู้ว่า…

"นายช้าเกินไป!"



การตายอย่างง่ายดายของพ่อมดผู้เก่งกาจที่เป็นทั้งอาจารย์และผู้เลี้ยงดูตนมา ทำให้หนูน้อยเอ็ดเวิร์ดช็อคมาก ส่วนอัลฟอนเซ่ก็ตกใจไม่แพ้กันเพราะขนาดร่วมมือกับพี่ชายอัจฉริยะยังทำอะไรไม่ได้ ระหว่างที่ทั้งสองอึ้งกิมกี่อยู่นั้น เจ้าชายขี่ม้าขาวผู้ลึกลับก็เดินทางจากไป ทั้งสองจึงไม่มีโอกาสขอบคุณหรือถามชื่อเสียงเรียงนาม



ด้วยเหตุนี้พี่น้องเอลริคจึงได้กลับมาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในบ้านตระกูลเอลริคอีกครั้ง

[font color=purple size=3]หึ หึ หึ…[/font]



FIN
Fiction

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา