Mecha Story: Recycleรับแหล่งรูปใหม่

อ้า...จากคอลัมน์รายปักษ์ก็กลายเป็นรายสองเดือน...หายไปนานจริงๆ เพราะข้อมูลใหม่ๆแทบไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน อื้อ...ยังไงก็ถือเป็นโชคดีที่ไปเจอแหล่งภาพสุดเจ๋งเลยรีไซเคิลของเก่ามาให้ซะเลย







ซาบุนกุล และ วอล์คเกอร์กาเลียร์

เริ่มจากซาบุนกุลก่อนนะ (ถ้าอ่านแบบฝรั่งก็เป็นซาบุนเกิ้ล) ซาบุนกุลเป็นวอล์คเกอร์มาชีนรุ่นใหม่ของอินโนเซนต์ ซึ่งส่งไปให้ตระกูลกาโค(ตระกูลของเอลจิ)เพื่อเป็นรางวัลที่ทำงานได้ยอดเยี่ยม

ซาบุนกุลเป็นวอล์คเกอร์มาชีนที่คล้ายมนุษย์มากที่สุด(ในตอนที่สร้างออกมาน่ะนะ) โดยเฉพาะมือที่มีนิ้วห้านิ้วแทนที่จะเป็นคีมแบบของวอล์คเกอร์มาชีนรุ่นก่อนๆ นอกจากนั้น ซาบุนกุลยังใช้การประกอบร่างของรถสองคัน(บุนกุลสคิปเปอร์และบุนกุลโรเวอร์)ด้วย

อาวุธหลักของซาบุนกุลก็คือปืนไรเฟิลและพละกำลังอันมหาศาลนั่นเอง(เครื่องยนต์ของซาบุนกุลมีกำลัง33,000แรงม้าซึ่งมากกว่าวอล์คเกอร์มาชีนทั่วๆไปครับ ทำให้มือเท้าหนักกว่าชาวบ้าน) นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งอาวุธแบบเต็มพิกัดซึ่งจะเสริมมิสไซล์ลันเชอร์หลากชนิดเข้าไป แต่เมื่อติดอาวุธเต็มพิกัด ความเร็วของซาบุนกุลจะตกลงมามาก จึงไม่ค่อยได้ใช้งาน

ส่วนวอล์คเกอร์กาเลียร์(ส่วนตัวแล้วคิดว่าน่าจะเป็นแคเรียร์-Carrierมากกว่านะครับ)เป็นวอล์คเกอร์มาชีนรุ่นต้นแบบที่จิรอน อาโมสขโมยมาจากฐานของอินโนเซนต์ ใช้การประกอบร่างของกาเลียร์โฮเวอร์และกาเลียร์วีล เป็นวอล์คเกอร์มาชีนตัวแรกที่มีระบบโฮเวอร์ให้ลอยอยู่เหนือพื้น ประสิทธิภาพทุกๆอย่างสูงมาก โดยเฉพาะด้านพละกำลังนั้นถ้าเรียกซาบุนกุลว่าแรงควาย เจ้านี่ก็แรงซูเปอร์แมนล่ะครับ (42,400แรงม้า)

อาวุธติดตัวของกาเลียร์ก็คือปืนกลขนาด12.7มม.และ20มม.ซึ่งติดอยู่ที่ค็อกพิตของคนขับทั้งคู่ ทั้งยังสามารถใช้ไรเฟิลแบบเดียวกับซาบุนกุลได้ แถมยังมีบาซูก้าใช้อีกต่างหาก

วอล์คเกอร์กาเลียร์มีโหมดติดอาวุธเต็มพิกัดเหมือนกัน โดยจะเพิ่มมิสไซล์ลันเชอร์และ"บูมเมอแรงก์อิเดี้ยม"เข้าไป ซึ่งบูมเมอแรงก์อิเดี้ยมนี้เป็นทั้งมิสไซล์ลันเชอร์แบบหลายลำกล้องแถมยังใช้ขว้างแบบบูมเมอแรงก์ก็ได้ แต่รู้สึกว่าในสภาพนี้กาเลียร์จะใช้โฮเวอร์ไม่ได้









ดันไบน์ และ บิลไบน์

คู่นี้ก็ออร่าแบทเลอร์ประจำตัวโชว์ ซาม่าพระเอกของเรานั่นเอง

ดันไบน์นั้นเป็นABรุ่นแรกๆที่ช็อต เวพอนสร้างขึ้นด้วยการสนับสนุนของเดรค ลุฟท์ จุดเด่นเมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกันอย่างโดรามุโร่ก็คือน้ำหนักตัวที่เบากว่า ทำให้ดันไบน์มีความเร็วและความคล่องแคล่วสูงกว่าด้วย

อาวุธของดันไบน์ประกอบด้วยดาบประจำตัวและกงเล็บติดสายเคเบิ้ลที่ใช้ในการจับและดึงศัตรูให้เข้ามาในระยะประชิดได้(ไวเยอร์คลอว์ไง) นอกจากนี้ก็มีปืนอัตโนมัติสี่ลำกล้องติดแขนซ้าย(สาวกSRWรู้จักในชื่อออร่าช็อต)

แม้ตอนแรกที่โชว์ถูกดึงมาไบส์ตอนเวลใหม่ๆ เขาจะขับดันไบน์ให้เดรค แต่เมื่อรู้ว่าเดรคคิดจะใช้กองกำลังออร่าแบทเลอร์ยึดครองไบส์ตอนเวลเลยหันไปเข้ากับกองกำลังกบฏเซราน่า(นำโดย นี กิบุน)แทน โดยเอาดันไบน์ไปด้วย

แม้จะเป็นABรุ่นเก่า แต่เพราะโชว์มีพลังออร่าที่สูงมากจึงทำให้ดันไบน์เป็นที่คู่ต่อสู้ที่น่ากลัวทีเดียว ถึงกระนั้น ภายหลังดันไบน์ก็พ่ายแพ้แก่ออร่าแบทเลอร์รุ่นใหม่ๆจนได้ แต่โชว์ก็ได้บิลไบน์มาเป็นคู่หูใหม่ ส่วนดันไบน์นั้นได้รับการปรับปรุงและให้มาร์เวล ฟรอเซนเอาไปใช้แทน

อนึ่ง ตอนแรกๆดันไบน์มีสามตัวนะครับ คือเครื่องของโชว์(สีม่วงอ่อน),ทอดด์(สีน้ำเงินเข้ม)และโทคามาค(สีเขียว) แต่ภายหลังก็เหลือแค่เครื่องของโชว์เท่านั้น ในเกมดันไบน์ของPSจะมีดันไบน์สีฟ้าซึ่งเป็นเครื่องของโทคามาคที่ถูกอาณาจักรรีเก็บมาซ่อมให้ใช้การได้

ส่วนบิลไบน์เป็นออร่าแบทเลอร์ที่ราชินีชีล่า ราวาน่าแห่งอาณาจักร นา ออกแบบและสร้างมาให้โชว์โดยเฉพาะ (ใครเคยเล่นดันไบน์ของเครื่องPS1คงเคยเห็นเซลไบน์ที่เป็นรุ่นผลิตจำนวนมากของบิลไบน์ด้วย)

บิลไบน์เป็นออร่าแบทเลอร์เพียงเครื่องเดียวที่สามารถแปลงร่างเป็นยานวิงก์คาริเบอร์ได้ ซึ่งในร่างนี้บิลไบน์จะมีความเร็วสูงขึ้นและยังสามารถบรรทุกABตัวอื่นได้ด้วย อาวุธของบิลไบน์ก็มีออร่าแคนน่อนแฝดซึ่งมีพลังทำลายสูงมากที่ติดด้านหลังแล้วก็ออร่าไรเฟิลซึ่งมีบีมซอร์ดติดไว้ด้วย ไวเยอร์คลอว์กับดาบธรรมดาก็ยังอยู่นะครับ

แน่นอนว่าเมื่อได้ออร่าแบทเลอร์ที่ทรงพลังมาใช้ โชว์ก็ยิ่งสำแดงฝีมือได้เด่นชัดยิ่งขึ้น ทั้งดันไบน์และบิลไบน์ถูกทำลายในศึกสุดท้ายบนโลก

นอกจากนี้ยังมีเซอไบน์ ซึ่งกล่าวว่าเป็นเครื่องต้นแบบของดันไบน์ที่ช็อต เวพอนสร้างขึ้น เซอร์ไบน์มีพลังเหนือกว่าดันไบน์หลายเท่า แต่เนื่องจากพลังออร่าของเซอร์ไบน์นั้นสูงจนอาจเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงได้จึงถูกผนึกเอาไว้ 700ปีให้หลัง ชิอ้อน ซาบาและมิเฟราริโอ ซิลกี้ มอว์จึงได้ปลุกเซอร์ไบน์ขึ้นมาอีกครั้งเพื่อต่อสู้กับกองทัพของอัศวินดำลาบัน เซอร์ไบน์มีอาวุธเป็นดาบเล่มเดียวเท่านั้นและมีลักษณะคล้ายกับสิ่งมีชีวิตมากกว่าเครื่องจักร

ต้นกำเนิดดั้งเดิมของเซอร์ไบน์ก็คือดีไซน์แรกเริ่มของดันไบน์ ซึ่งในภายหลังได้รวมอยู่ในชุดAura Phantasm





เอสคาโฟลวเน่

เอสคาโฟลวเน่เป็นไกเมเลฟของอาณาจักรฟานเนเลียที่เผ่าโบราณอิสปาโนสร้างขึ้นมา และใช้เวลาสร้างนานถึง150ปี ซึ่งผู้ที่จะควบคุมเอสคาโฟลวเน่ต้องสร้างสัมพันธ์กับเอสคาโฟลวเน่ ซึ่งในระยะยาวทั้งผู้ควบคุมและเอสคาโฟลวเน่จะมีความผูกพันธ์ในระดับที่แทบจะเรียกได้ว่าทั้งคู่เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเอสคาโฟลวเน่จะเกิดขึ้นกับตัวผู้ควบคุมด้วย และถ้าผู้ควบคุมเกิดบาดแผลขึ้นมา เอสคาโฟลวเน่ก็จะเกิดความเสียหายขึ้นมาเช่นกัน (แต่เอสคาโฟลวเน่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้)ในขณะเดียวกันผู้ควบคุมก็สามารถบังคับเอสคาโฟลวเน่จากภายนอกได้

จุดเด่นของเอสคาโฟลวเน่ก็คือการที่ใช้หินพลังงานถึงสามก้อนในขณะที่ไกเมเลฟทั่วๆไปใช้แค่2ก้อน เป็นสีแดงหนึ่งก้อนและสีเขียวสองก้อน สีจะบอกถึงระดับของหินพลังงานครับ โดยสีแดงจะมีพลังมากที่สุดซึ่งภายในหินแดงของเอสคาโฟลวเน่จะมีหินขนาดเล็กอยู่ภายใน นอกจากนี้เอสคาโฟลวเน่ยังใช้หินพลังงานที่ได้มาจากมังกรซึ่งทรงพลังมากกว่าหินทั่วๆไป(มังกรจะเขมือบหินเข้าไปและหินที่ไปสะสมอยู่ในตัวจะผ่านปฏิกิริยาที่ทำให้มีพลังมากขึ้น) องค์ชายแวน แฟนเนลไปเชือดมังกรและเอาหินพลังงานมาใส่ให้เอสคาโฟลวเน่เลยสามารถควบคุมเอสคาโฟลวเน่ได้

จุดเด่นอีกอย่างก็คือเอสคาโฟลวเน่สามารถแปลงร่างเป็นร่างมังกรได้ ซึ่งร่างนี้จะสามารถบินได้และหุบปีกเพื่อพุ่งชนด้วยความเร็วสูงได้ด้วย ส่วนอาวุธมีแค่ดาบเล่มเดียวเท่านั้นแต่ในภาคหนังยังสามารถยิงลำแสงจากหินพลังงานได้ เมื่อสงครามจบลง แวนจึงได้ถอดหินพลังงานออกเพื่อให้เอสคาโฟลวเน่กลับสู่การหลับไหลดังเดิม รูปที่สองก็คือเอสคาโฟลวเน่จากภาคหนัง



เกือบลืมบอกแหล่งของรูป รูปทั้งหมดในตอนนี้ได้มาจากZinc Panicครับ มีรูปหุ่นรุ่นคลาสสิคของซันไรส์(จนถึงเบรนพาวเวิร์ด)เกือบครบเลยมั้ง รูปของไวแฟมกับกาเลียนท์ที่หาได้ยากเย็นก็มาเจอที่นี่

/me หวังว่าตอนหน้าจะมีอะไรใหม่ๆมาให้อ่าน...
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา