Mecha Story : เรามาซิ่งกันเถอะ

ตอนนี้มีแววแป้กลอยมาแต่ไกลอยู่แฮะ...ช่างมัน ตอนนี้ก็เป็นของหุ่นกับชุดรบที่แปลงเป็นแมงกะไซได้ (จริงๆแล้วไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ฝรั่งเอามารวมให้เกี่ยวกันได้ในโรโบเทค)ข้อมูลของกาแลนด์รวมมาจากหลายๆที่จึงอาจผิดพลาดไปบ้างนะครับ และถึงจะพูดถึงรุ่นปรับปรุงด้วยแต่ข้อมูลตรงนี้ก็เป็นแค่ของตัวแรกเท่านั้น









ไรด์อาเมอร์

อาวุธที่ออกแบบมาเพื่อให้พลทหารมีพลังพอที่จะต่อสู้กับหุ่นแมลงของอินบิตได้ ไรด์อาเมอร์เป็นมอเตอไซค์หุ้มเกราะแบบแปลงเป็นเกราะพาวเวอร์ซุทได้โดยติดตั้งบนเกราะอ่อนCVR-3และมีระบบช่วยเหลือพอๆกับหุ่นรบ เกราะของไรด์อาเมอร์มีความทนทานสูงขนาดทนปืนพลาสม่าของอินบิตได้แต่ส่วนต้นแขน,ขาอ่อนและหมวกหุ้มด้วยเกราะอ่อนซึ่งมีการป้องกันน้อยกว่ามาก ไรด์อามเอร์ยังสามารถบินในระดับต่ำได้ ด้วยความคล่องแคล่วที่สูงและอาวุธหนักไรด์อาเมอร์จึงสามารถโค่นหุ่นชั้นต่ำอย่างอีก้าได้ด้วยตัวคนเดียว

โดยรุ่นแรกที่มีการผลิตใช้งานก็คือVR-38LT บาร์ธเลย์ซึ่งออกแบบมาให้ผู้หญิงใช้โดยเฉพาะด้วยความเชื่อที่ว่าผู้หญิงที่สามารถสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชายในแนวหน้าได้ทั้งที่มีกำลังด้อยกว่าย่อมมีฝีมือสูงกว่าปกติอยู่แล้ว บาร์ธเลย์มีเกราะที่บางและไม่มีอาวุธแบบติดตั้งภายในแต่ความคล่องแคล่วจะสูงกว่ารุ่นอื่นๆเช่นกัน อาวุธของบาร์ธเลย์ก็คือร็อคเก็ตลันเชอร์แบบมือถือซึ่งติดกับแขนขวาแต่สามารถปลดออกมาใช้ได้โดยไม่ต้องสวมไรด์อาเมอร์ เนื่องจากเป็นเกราะสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะจึงมีการผลิตไม่มากนัก หลังจากที่บาร์ธเลย์ประสพความสำเร็จด้วยดีจึงมีการพัฒนาต่อมาโดยที่มีข้อมูลก็คือVR-41H โบลวสพีเรียร์ ซึ่งมีเกราะที่หนาและติดตั้งอาวุธหนักคือมิสไซล์ลันเชอร์นำวิถีแบบหกนัดที่หน้าอกทั้งสองข้างและสามารถติดตั้งโล่ติดดาบที่แขนขวาได้ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการผลิตโบลวสพีเรียร์สูงมากจึงผลิตเป็นจำนวนจำกัดให้หน่วยพิเศษใช้โดยเฉพาะเท่านั้น

ไรด์อาเมอร์ที่มีการผลิตมากที่สุดก็คือVR-52 มอสปีด้า (MOSPEADA = Mobile Operation Soldier Protection Emergency Aviation Dive Armor) ซึ่งเอามิสไซล์ลันเชอร์แบบติดตั้งภายในออกไปเพื่อลดค่าใช้จ่าย มอสปีด้ามีอย่างน้อยสองรุ่นคือแบบVR-52Tซึ่งเป็นแบบมาตรฐานและใช้อาวุธเป็นบีมกัน40มม.ที่ติดไว้กับเกราะแขนขวา บีมกันนี้มีกล้องเล็งซึ่งเชื่อมกับระบบเล็งเป้าของมอสปีด้าทำให้ใช้งานได้ง่ายและแม่นยำ รุ่นที่สองก็คือVR-52Fซึ่งเป็นยูนิตฉุกเฉินสำหรับนักบินเลกิออส อาวุธหลักของรุ่นนี้ก็คือมิสไซล์แบบนำวิถีด้วยเลเซอร์สองนัดที่แขนทั้งสองข้าง เนื่องจากมิสไซล์นี้ใช้หัวรบพลาสม่าจึงมีพลังทำลายสูงแต่เนื่องจากมีแค่สี่นัดจึงมักใช้บีมกัน60มม.เป็นอาวุธเสริม แม้จะสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องสวมไรด์อาเมอร์ แต่เนื่องจากมันหนักถึง8กิโลกรัมจึงแทบเล็งไม่ได้ ด้วยกำลังของไรด์อาเมอร์ มอสปีด้าสามารถยกปืนนี้ได้ด้วยแขนข้างเดียว ปืนนี้มีกล้องซึ่งเชื่อมกับระบบเล็งของมอสปีด้าอีกเช่นกัน





กาแลนด์

หุ่นตัวเอกของซีรี่ส์เมก้าโซน23 มานูเวอร์สเลฟซึ่งสร้างจากข้อมูลภายในของบาฮามุท ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งควบคุมยานโคโลนีเมก้าโซน23 เมื่อเทียบกับฮาร์กันซึ่งกองทหารของเมก้าโซนใช้งานอยู่แล้วกาแลนด์เป็นยูนิตที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงกว่ามาก กาแลนด์ใช้ระบบแปลงร่างจากโหมดมานูเวอร์คราฟท์(มอเตอไซค์)ไปเป็นโหมดมานูเวอร์สเลฟแทนการประกอบชิ้นส่วนจากภายนอกของฮาร์กัน ซึ่งในโหมดมานูเวอร์สเลฟจะเปลี่ยนการควบคุมจากโหมดปกติมาเป็นแบบควบคุมโดยตรงจากคลื่นสมองของผู้ควบคุมทำให้สามารถใช้รูปแบบการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนได้ ในโหมดมอเตอไซค์กาแลนด์มีความเร็วสูงสุดถึง320กม./ชั่วโมงซึ่งเทียบได้กับรถแข่งฟอร์มูล่า1และสามารถลอยตัวกลางอากาศได้ในระดับต่ำ

จุดสำคัญที่สุดของกาแลนด์ก็คือระบบคอมพิวเตอร์ของกาแลนด์ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมทั้งหมดของบาฮามุทได้ โชโกะ ยาฮากิซึ่งไปได้กาแลนด์โดยบังเอิญผ่านเพื่อนที่ขโมยมาจากกองทัพอีกทีจึงถูกตามล่าโดยกองทหารของB.Dซึ่งคิดจะใช้กาแลนด์ในการแก้ระบบของบาฮามุทเพื่อเร่งพัฒนาอาวุธให้สู้กับศัตรูจากภายนอกได้ กาแลนด์ทำให้โชโกะพบความจริงที่ว่าบาฮามุทสร้างสิ่งแวดล้อมในเมก้าโซน23ให้เป็นสมัยศตวรรษที่20มากว่า500ปีเข้าไปแล้วและอีฟ ซูเปอร์ไอดอลก็เป็นโปรแกรมย่อยของบาฮามุทอีกที กาแลนด์มีอาวุธแค่ปืนเลเซอร์ แม้จะมีตลับพลังงานสำรองแต่ถ้ายิงหมดกาแลนด์ก็ได้แต่ลุยด้วยมือเปล่าเท่านั้น กาแลนด์ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการต่อสู้กับฮาร์กันของB.D.แต่โชโกะหนีไปได้ ซึ่งในภายหลังกองทหารของB.D.ได้สร้างGR-002A ซึ่งเป็นรุ่นผลิตจำนวนมากของกาแลนด์และใช้ระบบโฮเวอร์แทนล้อ ส่วนดีไซน์ของกาแลนด์ตัวต้นแบบก็ได้รับการปรับปรุงเป็นGR-00X โปรโตกาแลนด์
Anime Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา