ลูกชุมพลอีกแล้วลวงปวส.สับกุญแจ-ข่มขืน

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 ม.ค. น.ส. เก๋ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นักเรียน ปวส. ปี 2 สถาบัน อาชีวศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ศิริชัย สุขสาตต์ สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง สุราษฎร์ธานี ว่าถูกคนร้ายบังคับ พาตัวไปขืนใจ โดย น.ส.เก๋ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 22 ม.ค. ขณะอยู่ที่บ้านเพื่อนที่ถนนการุณราษฎร์ ในเขตเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี ได้มี น.ส.จิยาภรณ์ หรือเจี๊ยบ ไทยสุริยัน อายุ 19 ปี โทรศัพท์มาชวนไปงานเลี้ยง ศิลา หรือ ปาล์ม จิระวงศ์ อายุ 19 ปี ยืนรออยู่และบอกว่ามีเพื่อนชายคนหนึ่ง แอบชอบพอและอยากรู้จัก และชวนไปกินข้าว แต่ตนได้ปฏิเสธและจะขี่รถกลับ แต่ถูก น.ส.จิยาภรณ์ ขวางหน้าและยึดกุญแจรถไป จึงขึ้นรถตุ๊กตุ๊กกลับไปบ้านแต่ทั้งสองได้ขี่รถตามมาดักรอที่หน้าร้านข้าวต้มนายหัว ถนนการุณราษฎร์ พยายามพูดขอร้องให้ไปกินข้าวกับเพื่อนชายคนดังกล่าว โดยอ้างว่าหากไม่ไปทั้งสองจะถูกฆ่า

ระหว่างนั้น เพื่อนหญิงได้โทรศัพท์ไปตามชายคนดังกล่าว ชั่วครู่ได้ขับรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์ มาจอดในจุดที่ยืนคุยกันสังเกตในรถมีชายนั่งมา 2 คน พร้อมเรียกให้ น.ส.จิยาภรณ์พาตนขึ้นบนรถ ตนเห็นว่ามีเพื่อนหญิงไปด้วยจึงยอมขึ้นรถไปด้วย กระทั่งรถวิ่งไปถึงหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาแสงเพชร น.ส.จิยาภรณ์ได้ให้จอดรถทำทีลงไปซื้อบุหรี่ เมื่อปิดประตูรถคนขับ ซึ่งทราบชื่อว่า นายอ้วนก็รีบบึ่งรถออกทันที จากนั้น เพื่อนชายอีกคนทราบชื่อนายธีระพงษ์ หรือ แน๊ต จิระวงศ์ อายุ 20 ปี ได้ใช้ผ้าสีดำคลุมศีรษะตนพร้อมกดหัวลงและใช้มืออีกข้างอุดปากไว้ จนผ่านไปประมาณ 15 นาที นายอ้วนได้ขับรถพาไปที่บ้านหลังหนึ่ง และบอกให้นายธีระพงษ์ช่วยกันลากตนเข้าไปในบ้าน แล้วบังคับให้ถอดเสื้อผ้าจับใส่กุญแจมือที่ข้อมือข้างขวาล็อกไว้กับประตูบ้าน ให้นั่งบนโซฟาแล้วลงมือข่มขืนในสภาพใส่กุญแจมือทั้งคืน



น.ส.เก๋ ให้การต่อไปว่า จนกระทั่งถึงเวลา 6 โมงเช้าวันรุ่งขึ้น นายอ้วนได้นำผ้าสีดำมาคลุมศีรษะตนอีกครั้ง แล้วขับรถพาออกจากบ้านที่เกิดเหตุมาถึงที่หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี นายอ้วนได้เปิดผ้าคลุมศีรษะออกแล้วควักเงินให้จำนวน 7,000 บาท บอกให้เอาไปซื้อโทรศัพท์มือถือไว้ใช้ จากนั้นได้ขับรถพาไปทิ้งไว้ที่หน้าโรงแรมสยามธารา พร้อมพูดข่มขู่ห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใครไม่เช่นนั้นจะฆ่าทิ้ง เมื่อกลับไปถึงบ้านด้วยความกลัวจึงตัดสินใจนำเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไปเล่าให้กับมารดาฟังก่อนพามาแจ้งความ ระหว่างสอบปากคำตำรวจจึงได้นำภาพถ่ายบุคคลต้องสงสัยคือ นายแสงโรจน์ หรืออ้วน กาญจนะ อายุ 35 ปี บุตรชายของนายชุมพล กาญจนะ มาให้ น.ส.เก๋ดู เมื่อเห็นบุคคลในภาพถ่าย น.ส.เก๋ถึงกับร้องโฮระบุว่าคนในภาพถ่ายเป็นคนที่บังคับพาตนไปขืนใจ



หลังจากสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ส่งตัว น.ส.เก๋ ไปตรวจร่างกายที่ รพ.สุราษฎร์ธานี พบร่องรอยข่มขืนจนอวัยวะเพศมีรอยฉีกขาด แพทย์ต้องเย็บบาดแผลหลายเข็ม ขณะเดียวกันชุดสืบสวน สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานีได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน คือนายธีระพงษ์ หรือแน๊ต จิระวงศ์ อายุ 20 ปี น.ส.ศศิลา หรือปาล์ม จิระวงศ์ อายุ 19 ปี และ น.ส.จิยาภรณ์ หรือเจี๊ยบ ไทยสุริยัน อายุ 19 ปี มาสอบปากคำ ซึ่งทั้ง 3 ให้การตรงกันว่า ผู้ที่ก่อเหตุคือนายแสงโรจน์ กาญจนะ หรืออ้วน อายุ 35 ปี บุตรชายของนายชุมพล กาญจนะ โดยอ้างว่านายอ้วนให้พวกตนไปติดต่อ น.ส.เก๋ มาให้รู้จักโดยจะให้เงินค่าตอบแทน 2,000 บาท แต่หลังเกิดเหตุยังไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด



ด้านญาติของ น.ส.เก๋ ผู้เสียหาย กล่าวว่า คดีนี้รู้สึกกลัวอิทธิพลและเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้เป็นลูกชายของนักการเมืองจึงได้โทรศัพท์แจ้งไปยังมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อขอความ ช่วยเหลือทางคดี และจะส่งสำเนาบันทึกประจำวันผลการตรวจร่างกาย และหลักฐานต่างๆไปยังมูลนิธิปวีณาโดยด่วน



ส่วน พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ศรีวัฒนพงษ์ ผกก.สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีความหนักใจอะไร แม้ว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นลูกของ ส.ส.หรือนักการเมืองก็ตาม ตำรวจจะดำเนินการไปกระบวนการทางกฎหมาย



สำหรับนายแสงโรจน์ กาญจนะ หรืออ้วน เป็น ลูกชายของนายชุมพร กาญจนะ อดีตประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร นายแสงโรจน์เคยก่อคดีอุกฉกรรจ์ในท้องที่ สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานีหลายคดี เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.42 ก่อเหตุดวลปืนกับตำรวจ สภ.อ.พุนพิน ที่ชาร์กี้ผับ เขตเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย และได้ไกล่เกลี่ยยอมความกัน ต่อมาวันที่ 28 ธ.ค.43 ใช้อาวุธปืนยิงนายกิตติ วิเศษสมบัติ พนักงานขับรถสำนักงานสรรพากร ภาค 11 สุราษฎร์ธานี เสียชีวิต เหตุเกิดที่แสงระวีอพาร์ตเมนต์ เขตเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 16 ปี 15 เดือน ได้ประกันตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์





ที่มา ไทยรัฐ



Miscellaneous

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา