มือใหม่หัดเดท...กับไหวพริบอันชาญฉลาดของเธอ

มือใหม่หัดเดท...กับไหวพริบอันชาญฉลาดของเธอ





เรื่อง: มือใหม่..หัดเดท

ที่มา: ไม่ระบุ





สำหรับสาวๆ ที่กำลังจะมีเดทกับชายหนุ่มแล้วหล่ะก้อ...



นี่คงเป็นเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเพื่อนๆ นะครับ...



เนื่องจากเราได้ชายหนุ่ม ซึ่งเป็นปุถุชน พูดจาดีมีศีล 5 มาคนหนึ่ง



(ถึงกระนั้นก็ตาม ก็อย่าไว้ใจให้มากนะครับ)







เขาจะเป็นโรคช่างหมั่นโทรมาหาเราบ่อย ๆ



จนคิดว่า บุพการีมันต้องมีหุ้นส่วนในองค์การโทรศัพท์แน่ ๆ



และโทรมาแต่ละครั้งนั้น ก็จะพูดจาจนมดเลี่ยนตาย เช่น " จ๊ะจ๋า..."





(อะไรประมาณเนี้ยทำให้เริ่มแน่ใจอีกอย่างว่า



นอกจากจะมีหุ้นในองค์การโทรศัพท์แล้ว



ยังมีอาชีพเก็บน้ำหวานขายเป็นอาชีพเสริม...









เหตุการณ์อย่างนี้ศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า "ผู้ชายโทรมาจีบ "



แต่อย่าตกใจไป เขาไม่ได้โทรมาขายประกัน



แต่เขาจะโทรมาขอความรักต่างหาก





เค้าจะโทรมาวันละหลาย ๆ ครั้ง



ถามสารทุกข์สุขดิบ รายงานว่ากำลังทำอะไรอยู่



หรือบางทีอาจจะรายงานสภาพการจราจร





จนถึงจุดหนึ่งแล้วเค้าจะชวนเราไปออกเดท...



หลายคนอาจดีใจมาก ไม่คิดว่า เกิดมาชาตินี้จะได้ออกเดท



แต่ขอให้เก็บอาการไว้นิดส์...นึง





อาจจะต้องตอบปฏิเสธไปก่อนเพื่อนให้ตัวเอง มีค่าเช่น





"จะดีหรือคุณ......เราพึ่งรู้จักกันนะ" หรือ



"ฉันคงติดประชุมสมาคมผู้ค้าส่งสุกรส่งออกค่ะ"



แต่หากใครปฏิเสธไม่ได้ ผมขอแนะนำให้เจอกันครึ่งทางคือ







การไปออกเดทรอบ Preview ก่อน อาจจะเป็นเซเว่นหน้าปากซอย



ไปเดินป้อนบิ๊กเปาหน้าเคาท์เตอร์ แคชเชียร์



เอา Foot Long มาไล่ตีกัน



เหอะๆ..กระหนุงกระหนิง







การไปเดทรอบ Preview นั้น



ก็ถือเป็นการทดลองสินค้าก่อนตัดสินใจไปซัก 2-3 รอบ



ถ้าถูกใจค่อยออกไปเดทรอบจริง......







แต่ทีนี้ก็มาถึงวันสำคัญ สำหรับมือใหม่หัดเดท



ก่อนออกจากบ้านอาจจะรู้สึกประหม่า ไม่มั่นใจ



เหมือนขาดผ้าอนามัยในวันมามาก







เสื้อผ้าอาจจะเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ยิ่งกว่านางแบบ หลังแคทวอล์ก



หรือถ้าไม่ดีขึ้น อาจจะลองไปวิ่งรอบวงเวียนใหญ่แบบทวนเข็มนาฬิกาสัก 7 รอบ



จะหายตื่นเต้นเป็นปลิดทิ้ง (กลายเป็นเหนื่อยแทน)





การออกเดทแบบ Basic



คือต้องไปดูหนังโรแมนติกถึงโรแมนติกคอมเมดี้เป็นอย่างต่ำ เช่น



Notting Hill หรือเถี่ยนมีมี่เวลาดูจะได้ซ้ำอินไปกับหนัง



ฉากที่พระเอกสารภาพรักกับเพื่อนนังอิจฉาในหนังก็สวีทกันไป







มือของเราทั้ง 2 ก็มาสัมผัสกันโดยบังเอิญในถุงป๊อปคอร์น



กระแสไฟฟ้าสถิตย์ก็จะสปาร์คขึ้น



เราทั้งคู่ชักมือออกจากถุงพร้อมกัน ป๊อปคอร์นกระจายเต็มพื้น



ตาประสานกันและยิ้มให้กันโดยมิได้นัดหมาย



ตอนนี้แหละ โรแม้นสุดๆ กรุณาค้างไว้นาน ๆ



ห้ามก้มเก็บป๊อปคอร์นที่ตกพื้นขึ้นมากินเด็ดขาด



เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเราไร้อารยธรรม







พอออกจากโรงหนังถ้าเค้าถือโอกาสจับมือเรา



อย่าพึ่งให้เค้าจับนะครับ เดี๋ยวสื่อมวลชนจะลงข่าว หาว่าเราใจง่าย



บอกกับเค้าว่าเราเพิ่งรู้จักกันอย่าพึ่งจับมือเลย







ถ้าเค้าเป็นคนไม่ใช่กระบือพูดดีๆ มีเหตุผลก็น่าจะเข้าใจ



แต่ถ้าพูดไม่ฟังแนะนำให้คลุกวงใน แล้วตีเข่าสั่งสอนได้เลย



และตามด้วยหนุมานถวายแหวน จะทำให้พูดง่ายขึ้น 3 %





ดูหนังเสร็จก็ต้องกินข้าว



ขอแนะนำให้กินอาหารที่กินง่าย ๆ



อย่ากินอาหารที่กินยาก ยิ่งพวกบะหมี่อะไรพวกเนี้ย ลืมไปได้เลย







ลองคิดดูสิ ถ้าชวนกันไปกินชายสี่หมี่เกี๊ยวจะเป็นไง



โอโห....นั่งดูดบะหมี่น้ำซุปกระจาย



หากดูดแรงไปจะทำให้เส้นบะหมี่ไปฟาดหน้าเค้า



เสียโฉมขึ้นมาล่ะแย่เลย







อีกอย่าง ก๋วยเตี๋ยวจะมีส่วนผสมของผักชีต้นหอม กินเสร็จก็มักจะติดฟัน



แต่ถ้าหากใครที่ติดก๋วยเตี๋ยวมากต้องกินเป็นสรณะ



ผมก็มีวิธีมาแนะนำ "กินอย่างไรให้สวย"







ขั้นแรกต้องสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำ เส้นอะไรก็ได้แล้วแต่ชอบ อันนี้ไม่บังคับ



วิธีกินให้คีบก๋วยเตี๋ยวใส่ช้อนทีละประมาณ 2 ลูกบาศก์เซนติเมตร



แล้วค่อย ๆ ประคองเข้าปากนั่นแหละ...อ้ำทีละคำ 2 คำ







สลับกับตักน้ำซุปแก้ติดคอ แต่เดี๋ยวก่อน !



น้ำซุปอย่าพึ่งซดหมดนะครับ...



เหลือติดชามไว้สัก 7 ลูกบาศก์เซนติเมตร



เอาไว้กลั้วปากป้องกันผักติดฟัน



แค่นี้เอง







หลังจากเที่ยวกันหนำใจแล้ว ก็ควรรีบกลับบ้าน



เด็กดีปี 2006 ไม่ควรกลับบ้านดึกนะครับ มันอันตราย ไว้ใจใครไม่ได้เลย



เดี๋ยวพ่อแม่จะเป็นห่วง และแน่นอนเค้า ต้องมาส่งเราถึงหน้าบ้าน



(แต่ถ้าเค้าทำท่าทางเป็นอิดออด )







เราก็จำเป็นต้องใช้เสน่ห์หญิงสาว 300 เล่มเกวียน



หลอกล่อให้เค้ามาส่งจนได้เพราะเป็นหญิงสาวไม่ควรกลับบ้านคนเดียว



แต่อย่าให้มากนัก เดี๋ยวจะหาว่าเราให้ท่า...ไม่งั้นอาจโดนแบบนี้)





ปวีณา : ทำไมถึงกลับบ้านดึกดื่นล่ะจ๊ะหนู...? แล้วหนูกลับบ้านยังไง...?



ญ สาว : มีผู้ชายรุ่นพี่มาส่งค่ะ...แต่ด้วยไหวพริบของหนู



หนูสังเกตว่าเขาเป็นคนขี้หลี...ถ้าให้รู้จักบ้าน...



ก็จะตามมาตื้อจนรำคาญ..จึงให้ส่งแค่ปากซอย... แล้วหนูเดินเข้ามา...







ปวีณา : แล้วเกิดอะไรขึ้น...?



ญ สาว : เขาเดินตามหนูมา..เนื่องจากเขามีรูปร่างสูงใหญ่..ล่ำสัน..



แถมยังมีอาการเมาเล็กน้อย..



ด้วยไหวพริบของหนู... หนูรู้ได้เลยว่า รุ่นพี่คนนี้คงไม่ได้ มาดีแน่...





ปวีณา : แล้วยังไงต่อจ๊ะ...?



ญ สาว : หนูเลยตัดสินใจออกวิ่ง..แต่รุ่นพี่คนนี่ก็วิ่งตามหนูทันที...



ด้วยไหวพริบหนูรู้ว่า..วิ่งยังไงก็คงไม่เร็วกว่าผู้ชายอยู่ดี ยังไงเขาก็



ต้องตามทัน..และใช้กำลังแน่นอน....







ปวีณา : ยังไงต่อจ๊ะ...?



ญ สาว : ด้วยไหวพริบของหนู..หนูตัดสินใจหยุดวิ่ง...



เพื่อไม่ให้ต้องเจ็บตัวหนูตัดสินใจเจรจาต่อรอง....







ปวีณา : ผลการเจรจาเป็นอย่างไรจ๊ะ...?



ญ สาว : หนูบอกเขาว่า..ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องใช้กำลัง...



ไม่เกิดผลดีต่อทั้งสองฝ่าย...หนูยินยอมทำตามที่เขาต้องการ...







ปวีณา : เรื่องเป็นอย่างไรต่อจากนั้น...?



ญ สาว : ด้วยไหวพริบของหนู...หนูชวนเขาเข้าไปในซอกตึกลับตาคน...



แล้วต่างคนต่างถอดเสื้อผ้าของตัวเอง....





: หนูถกกระโปรงขึ้นมาเหนือเอว..



: ส่วนเขาปลดกางเกงตกลงมากองอยู่ที่เท้า







ปวีณา : เรื่องเป็นยังไงต่อจ๊ะ...?



..........



ข้อมูลสำหรับผู้ร่วมแสดงความเห็น

ต้องร่วมแสดงความเห็นในหัวข้อนี้ก่อนจ้ะ จึงจะเห็นข้อมูลส่วนนี้
Miscellaneous

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา