(Review) Doraemon the Movie 2009

อ่านก่อนนิดนึง



บทความนี้ คือบทความReview หนังในมุมมองของผมแค่คนเดียว ไม่ใช่มุมมองของคนส่วนมาก ฉะนั้นไม่แปลกถ้าท่านจะรู้สึก เอ๊ะทำไมนายไม่ชอบตรงนี้ เอ๊ะทำไมนายมาด่าเรื่องนี้ เอ๊ะนายบอกเรื่องนี้ดี นายเพี้ยนรึเปล่า อยากจะบอกว่า ผมเป็นแค่คนดูหนังคนนึง มิอาจสามารถเอาใจของคนทั่วโลกมารวมในคนเดียว แล้วประมวลคะแนนให้พอใจทุกคนได้ เพราะคนเราย่อมมีรสนิยมการดูหนังไม่เหมือนกันทุกคนครับ ฉะนั้น ถ้าอ่านReview ของผมแล้ว จงอย่าตัดสินทันที ขอให้พิสูจน์หนังเรื่องนั้นด้วยตัวท่านเอง ไม่แน่ หนังที่ผมบอกห่วย อาจเป็นหนังในใจท่านก็ได้ครับผม ด้วยความเคารพครับ



และขอความกรุณาอย่าSpoil หนังนะครับผม จะSpoil ก็ขอให้ใช้การซ่อนข้อความ



การติชมต่อผลงานของSoma สามารถเขียนได้ในกระทู้อย่างเปิดเผยและตรงๆอย่างไม่ต้องกังวล เข้ามาอ่านReview เล็กๆก่อนตัวเต็ม หรือถ้าใครที่เข้ามาอ่านธรรมดาแต่อยากติชม สามารถเข้าไปติได้ที่Facebook ของกระผมนะครับ



http://www.facebook.com/profile.php?id=100000512771067









Doraemon the Movie 2009 : Doraemon Shin Nobita No Uchu Kaitakushi (รีเมคภาคตะลุยอวกาศปี 1981)








แนวหนัง : แอ็คชั่น ไซไฟ



ตัวอย่าง




http://doraeiga.com/2009/index.html



เรื่องย่อ



เมื่อเสื่อที่พื้นของห้องโนบิตะดันมากลายเป็นประตูยานอวกาศของ โรพอล เด็กหนุ่มผู้บังเอิญหลบหนีการตามล่าของโจรสลัดจนวาร์ปผิดพลาดมาติดที่ประตูมิติ และโรพอลได้พาโนบิตะไปรู้จักกับดาวโคยะโคยะ ที่นี้โนบิตะต้องเข้ามาผัวพันกับแก๊งค์ล่าแร่ธาตุที่คอยคุกคามดาวโคยะโคยะอยู่ การผจญภัยโดยมีชะตากรรมของดาวดวงนี้จึงเริ่มต้นขึ้น







มุมมองของ Soma



อย่าแปลกใจครับว่าทำไมภาคของปี 2009 ถึงมารีวิวเอาป่านนี้ เพราะเมื่อปีที่แล้ว Rose ยอมตัดภาคนี้ไม่ให้ฉายโรงเพื่อให้เราได้ดูทันประเทศญี่ปุ่นไงครับ (อนึ่งคือป้องกันแผ่นผีที่ออกมาให้ดูก่อน ซึ่งเจอกันมาตอนภาคตำนานยักษ์พฤกษา) และตอนนี้ Rose ก็ได้ออกแผ่นแท้ลิขสิทธิ์มาแล้ว ซึ่งจริงๆผมดูมาก่อนเกือบ 2 ปีแล้วล่ะ แต่เห็นแผ่นมันพึ่งออกและพอดีก็ซื้อมาดูอีกรอบ ก็เลยขอรีวิวเลยจะดีกว่า



จริงๆแล้วภาคนี้ตัวออริจินอลผมไม่ได้ประทับใจอะไรมากมายอยู่แล้ว ทำให้รีเมคตัวนี้ผมเลยลดความคาดหวังลงไปเล็กน้อย และผมก็ทำถูกต้อง เพราะเอาจริงๆภาคนี้ผมนับว่าเป็นภาครีเมคของทีมใหม่ที่ค่อนข้างน่าผิดหวังครับ







จุดเสียหลักจริงๆเลยคือการที่หนังแทบไร้จุดพีคครับ โดยปกติภาครีเมคแต่ละภาคนั้นจะมีจุดที่ยอดเยี่ยมน่าจดจำเช่น ไดโนเสาร์ก็จะมีฉากเรียกน้ำตาที่ประทับใจ เวทย์มนต์ก็จะมีฉากแอ็คชั่นที่ดูสนุก และภาคหุ่นยนต์ที่ยอดเยี่ยมตลอดทั้งเรื่อง แต่กับภาคนี้ไม่มีจุดใดที่เด่นชัดออกมาให้น่าจดจำเลย โดยเฉพาะจุดแรกที่ค่อนข้างน่าผิดหวังเลยคือฉากแอ็คชั่น เพราะเอาจริงๆส่วนตัวผมว่าโครงเรื่องของภาคนี้สามารถทำฉากแอ็คชั่นสนุกได้พอๆหรือมากกว่าภาคเวทย์มนต์ด้วยซ้ำ (หลายๆอย่างในหนังอวย ทั้งยานอวกาศ ปืนอวกาศ อุปกรณ์ไฮเทค หรือพลังของโนบิตะ) แต่หนังกลับทำออกมาได้ค่อนข้างจืดชืดไปเกือบทั้งเรื่อง (คือมีฉากแอ็คชั่นเยอะเหมือนกันนะ) ไม่เว้นแม้แต่ฉากช่วงไคล์แม็กซ์ นับว่าเป็นจุดที่น่าเสียดายจุดแรก



จุดที่2 คือบทที่เอื่อยพอสมควร จริงๆส่วนตัวผมว่ามันเป็นตั้งแต่ Original ที่บทภาคนี้ดูเอื่อยๆแปลกๆ พอมารีเมคก็ดูเหมือนจะไม่ได้ปรับปรุงจุดนี้ให้ดีขึ้นเท่าไร บทของหนังจึงไปเรื่อยๆไม่มีจุดที่ทำให้ตื่นเต้นหรือเข้าถึงความรู้สึกของตัวละครแต่อย่างใด อีกทั้งประเด็นในหนังก็น่าสนใจพอสมควรแต่ไม่ได้ใส่ใจ อย่างเช่นประเด็นมิตรภาพของโนบิตะกับกลุ่มไจแอนท์ ที่น่าสนใจและน่าหยิบมาปรับปรุงจากตัวออริจินอลมาก แต่หนังกลับใส่แค่ผิวเผินจนดูไม่รู้สึกซาบซึ้งในมิตรภาพของพวกเค้าในช่วงท้ายเรื่อง และการใส่บทของโมรีน่า ที่เหมือนจะมีโครเงืร่องที่น่าสนใจแต่บทในหนังกลับเขียนได้ไม่ดีพอที่จะทำให้รู้สึกว่าตัวเธอมีความสำคัญต่อโครงเรื่องทั้งหมด หรือเห็นใจในชะตากรรมของเธอ ส่งผลให้ฉากช่วงท้ายค่อนข้างขาดอารมณ์ร่วมโดยสิ้นเชิง และเพราะบทที่เรื่อยๆเกินไปและขาดจุดที่ทำให้รู้สึกร่วมไปกับตัวละครส่งผลให้ฉากจบภาคนี้ไม่รู้สึกอิ่มใจอย่างที่ภาครีเมคภาคก่อนๆทำมา







จุดสุดท้ายที่น่าเสียดายคือลายเส้น ผมยอมรับว่าผมเป็นคนที่ยอมรับในลายเส้นของโดราเอม่อนยุคใหม่ได้แล้ว แต่ก็ขอบอกว่าภาคนี้ลายเส้นประหลาดเกินไป เพราะตัวละครบิดเบี้ยวเยอะมากจนรู้สึกน่าเกลียดและผิดสัดส่วน โดยหนังจะเป็นแบบนี้ไปเกือบครึ่งเรื่อง แม้จะยอมรับลายเส้นขนาดไหนแต่การที่ตัวละครบิดเบี้ยวเกินไปขนาดนี้ก็ยากที่จะรู้สึกดีไปกับมัน ยิ่งถ้าใครเอนตี้ลายเส้นใหม่มาดูภาคนี้เป็นภาคแรก ผมเชื่อว่าท่านอาจจะเลิกดูม่อนทีมใหม่ไปตลอดกาลเลยทีเดียว (แนะนำถ้าจะเริ่มดูภาคของทีมใหม่ แดนเวทย์มนต์ กับหุ่นเหล็กครับ) แต่ถึงแม้ตัวละครจะบิดเบี้ยวเยอะขนาดไหน แต่ช่วงเริ่มผจญภัยในอวกาศฉากก็เริ่มวาดสวยขึ้นตามลำดับไป แต่ถ้าเคยดูภาคตำนานยักษ์พฤกษามามันก็คงไม่หวือหวาเท่าภาคนั้นแล้วล่ะ



ถึงแม้จะบ่นมาขนาดนี้ แต่เมื่อเอาองค์ประกอบทั้งหมดมารวมกัน ภาครีเมคภาคนี้ก็ยังสนุกกว่าภาค ตำนานยักษ์พฤกษาและสงครามเงือกอยู่ดี คงต้องขอบคุณอ.ฟูจิโอะที่ถึงแม้ภาคนี้บทจะไม่ได้มีความหวือหวาเท่าภาคอื่น แต่ก็สามารถทำให้สนุกและเอามารีเมคก็ยังคงความสนุกได้ในระดับนึง แม้ว่าโดยส่วนใหญ่มันจะดูน่าผิดหวังก็ตามที







สรุป : ถ้าใครคิดจะซื้อมาดู ขอให้ลดความคาดหวังจากที่ดูภาครีเมคของทีมใหม่มาก่อน เพราะภาคนี้พูดกันตรงๆเป็นภาครีเมคที่ทำออกมาได้สนุกน้อยที่สุด เข้าข่ายน่าผิดหวัง แต่สามารถดูเอาสนุกได้เพลินๆไม่เสียดายตังค์ค่า DVD แต่ถึงจะพูดยังงั้นก็น่าเสียดายวัตถุดิบของภาคนี้ที่น่าจะผลิตออกมาเป็นงานรีเมคที่ตราตรึงใจแฟนๆอีกภาคได้แท้ๆเชียว



เกรด : B+




อนึ่ง ขอบคุณทีมรีเมคที่ทำให้เรารู้ว่า แท้จริงๆแล้ว จามี่ มันเป็นเพศเมียนี้เอง



แล้วพบกันใหม่ครับ ลาล่ะ 555



ปล.ขอยกให้หน้านี้คือหน้าที่ตลกที่สุดของม่อนในทีมใหม่







ปล.2 พอเป็นภาคลูกเมียน้อยไม่ได้ฉายโรง Rose เลยทำกล่องภาคนี้สวยน่าสะสมเลยทีเดียวเชียว







Miscellaneous

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา