Mecha Story: He toss a genie!

ตอนที่แล้วลงอะไรเว่อๆไปแล้ว ตอนนี้ก็ลดลงมาเหลือปกติ ชื่อกระทู้มาจากท่อนฮุกในเพลงเปิดของตัวนึงในตอนนี้ล่ะ (ฟังดีๆสิครับ)

ใครจำไม่ได้ว่าตัวไหนมาจากเรื่องอะไร อ่านให้จบแต่ละตัวก็น่าจะรู้น่ะนะ





RGM-79V จิมไนท์ซีกเกอร์

จิมซีรีส์ที่ได้รับการออกแบบสำหรับการลอบจู่โจมเป้าหมายจากภาคอากาศในยามกลางคืน จิมไนท์ซีกเกอร์นั้นเปลี่ยนแบ็คแพ็คและติดตั้งท่อขับดันเสริมเพื่อช่วยชะลอความเร็วขณะทิ้งตัวจากยานขนส่ง กันเพอรี ซึ่งเมื่อเทียบกับการใช้ร่มชูชีพแบบกันดั้มภาคพื้นดินแล้ว จิมไนท์ซีกเกอร์จะลงสู่พื้นได้เร็วกว่าและสามารถเข้าใกล้เป้าหมายก่อนจะถูกศัตรูเห็นได้มากกว่าด้วย ส่วนหัวยังสวมเซนเซอร์เสริมแบบหน้ากากซึ่งช่ยให้มองเห็นในความมืดได้ดีกว่าเดิม ใช้อาวุธแบบจิมธรรมดา ในMSV-Rนั้น ทีมจิมไนท์ซีกเกอร์รับหน้าที่ลอบโจมตีฐานศัตรูเพื่อเปิดทางให้ฝูงบินดีพร็อกเข้าทิ้งระเบิด



ตัวธรรมดาๆก็ผ่านไปแล้ว ต่อไปก็คือ...



IG-227 เฮลไฟเยอร์และNR-N99 เพอร์ซูเอเดอร์

เฮลไฟเยอร์นั้นเป็นหุ่นยนต์ดรอยด์แบบรถถังซึ่งเดิมทีกลุ่มธนาคารอินเตอร์กาแล็กติกใช้จัดการกับลูกหนี้ที่จ่ายเงินไม่ทันตามกำหนด เมื่อกลุ่มธนาคารได้ร่วมในการก่อตั้งสมาพันธ์ดวงดาวอิสระซึ่งต้องการแบ่งแยกตัวเองจากสาธารณรัฐกาแล็กติกจึงได้ดัดแปลงให้ใช้การการสู้รบเต็มรูปแบบได้ เฮลไฟเยอร์นั้นขับเคลื่อนด้วยล้อขนาดใหญ่สองล้อด้านข้างจึงมีความเร็วสูงมากและติดตั้งอาวุธหลักเป็นมิสไซล์ลันเชอร์ซึ่งมีพลังทำลายพอที่จะทำลายวอล์คเกอร์รุ่นหนักอย่าง AT-TEของสาธารณรัฐได้ กับเป้าหมายขนาดเล็กอย่างทหารโคลนนั้น เฮลไฟเยอร์จะใช้ปืนเลเซอร์ยิงหรือใช้ล้อบดได้ นอกจากนั้นยังสามารถเปลี่ยนมิสไซล์ลันเชอร์เป็นอาวุธอื่นๆอย่างปืนบลาสเตอร์ต่อต้านอากาศยาน หรือปืนใหญ่อิอ้อนได้ ด้วยพลังทำลายและความเร็วในระดับสูงของเฮลไฟเยอร์ ทำให้เฮลไฟเยอร์เป็นอาวุธที่ใช้การได้ดีทั้งกับวอล์คเกอร์รุ่นหนักและกองทหารโคลน จุดอ่อนของเฮลไฟเยอร์ก็คือบรรทุกมิสไซล์ได้เพียงสามสิบนัดเท่านั้น ซึ่งกลุ่มธนาคารก็เคยถอนกำลังเฮลไฟเยอร์เป็นการชั่วคราว ก่อนแก้ปัญหาโดยการใช้หุ่นดรอยด์สนับสนุนภาคอากาศบรรทุกมิสไซล์สำรองให้



ดรอยด์แบบรภถังอีกรุ่นที่กลุ่มแบ่งแยกใช้เป็นกำลังหลักก็คือ NR-N99 เพอร์ซูเอเดอร์ ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับหอยทาก โดยส่วนกลางนั้นเป็นตีนตะขาบที่เป็นระบบขับเคลื่อนหลัก ก่อนสงครามโคลนนั้น สหพันธ์พ่อค้าใช้เพอร์ซูเอเดอร์เพื่อจัดการกับดาวเคราะห์ห่างไกลความเจริญที่คัดค้านแผนการพัฒนาหรือต่อต้านการผูกขาดของสหพันธ์ ก่อนจะได้รับการดัดแปลงให้ใช้ในสงครามกับสาธารณรัฐ เพอร์ซูเอเดอร์นั้นสามารถติดตั้งอาวุธไว้ด้านข้างได้ โดยทั่วไปแล้วจะติดตั้งปืนอิอ้อนและปืนบลาสเตอร์แบบยิงได้ต่อเนื่องเป็นอาวุธ แต่ก็สามารถเปลี่ยนเป็นติดตั้งมิสไซล์ลันเชอร์ได้เช่นกัน นอกจากนั้นยังใช้เป็นยานลำเลียงทหารดรอยด์ได้โดยให้ยืนบนเกราะครอบตีนตะขาบเสริมด้านข้าง เนื่องจากตีนตะขาบหลักนั้นมีขนาดใหญ่ เพอร์ซูเอเดอร์จึงมักเป็นแนวหน้าบุกเข้าบดทำลายเป้าหมายที่กีดขวางทาง จุดอ่อนของเพอร์ซูเอเดอร์นั้นอยู่ที่เลี้ยวยากมาก ถ้าถูกศัตรูเข้าโจมตีจากด้านข้างขณะที่ไม่มีทหารดรอยด์อยู่ก็จะถูกทำลายได้ง่ายๆ ในภายหลังกลุ่มแบ่งแยกจึงได้ดัดแปลงบางเครื่องให้ติดตั้งป้อมปืนเลเซอร์เพื่อใช้ป้องกันตัวจากด้านข้างแทน

เมื่อสงครามโคลนจบลงหลังจากที่ดาร์ธเวเดอร์สังหารสมาชิกสภาของสมาพันธ์ดวงดาวอิสระ ดรอยด์รถถังทั้งสองรุ่นทั้งหมดก็ถูกปิดระบบไป แต่ก็มีเฮลไฟเยอร์จำนวนหนึ่งที่กลุ่มกบฏเก็บเอาไปและเดินเครื่องใช้งานใหม่ในช่วงสงครามต่อต้านจักรวรรดิ (สาเหตุที่ใช้เฮลไฟเยอร์เพราะมักใช้โจมตีในตัวเมือง เฮลไฟเยอร์นั้นAIมีโปรแกรมให้เลี่ยงไม่ทับพลเรือน แต่เพอร์ซูเอเดอร์นั้นเลี้ยวยากเลยโปรแกรมให้ทับดะ)







มาร์เวลเลอร์ (เลโอพาร์ดอน)

ยานอวกาศของชาวดาวสไปเดอร์ซึ่งตกลงมาบนโลก ทาคุยะ ยามาชิโร่ได้เข้าไปสำรวจมาร์เวลเลอร์หลังจากที่ฮิโรชิ ยามาชิโร่ถูกฆ่าตายโดยกองกำลังกางเขนเหล็กซึ่งสนใจยานลำนี้ด้วยเหมือนกัน ทาคุยะได้พบกับกาเรีย ชาวดาวสไปเดอร์คนสุดท้าย ผู้มอบพลังให้ทาคุยะเป็นสไปเดอร์แมนและต่อสู้กับกองกำลังกางเขนเหล็ก (ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์? หมายถึงใครอ่ะ?) มาร์เวลเลอร์นั้นสามารถบินได้ด้วยความเร็ว15มัค และถ้าใช้ในอวกาศจะเดินทางด้วยความเร็วใกล้เคียงความเร็วแสงได้ มาร์เวลเลอร์ยังมีอาวุธที่ไม่ค่อยได้ใช้งานอีกอย่างคือมาร์เวลเลอร์แคนน่อน

ปกติแล้วสไปเดอร์แมนจะใช้มาร์เวลเลอร์ต่อสู้โดยให้แปลงร่างเป็นหุ่นยนต์"เลโอพาร์ดอน"เสียเป็นส่วนใหญ่ อุปกรณ์ของเลโอพาร์ดอนประกอบด้วยแขนสองข้างซึ่งสามารถยิงออกไปเป็นหมัดจรวดซึ่งมีกำลังชกทะลุคอนกรีตหนา5เมตรได้ บูมเมอแรง "อาร์คเทิร์น" ที่หน้าอกสามารถยิงใย "เลโอพาร์ดอนสตริง" จับศัตรูไว้ได้ และไม้ตายก็คือดาบ "ซอร์ดบิกเกอร์" ซึ่งใช้ขว้างปิดฉาก (ไม่เคยเอาไปฟันธรรมดา) จริงๆแล้วก็มีโล่ "สไปเดอร์โปรเท็คเตอร์"ไว้ป้องกันตัวด้วย แต่ไม่ได้ใช้ในเรื่อง









เซบเซน

เกียร์ที่นิโคลา บัลธาซาพัฒนาขึ้นเพราะถูกจักรวรรดิโซลาริสที่ลักพาตัวมาบังคับ เซบเซน (#17) นั้นเป็นเกียร์เครื่องแรกที่มีระบบประสาทเทียมซึ่งทำให้สามารถตอบสนองต่อการควบคุมของนักบินได้ดีกว่าระบบควบคุมแบบปกติ ซึ่งกว่าที่ระบบประสาทเทียมของเซบเซนนั้นจะสมบูรณ์ก็ต้องมีผู้คนต้องตายในการทดลองไปมากมายซึ่งรวมถึงคลอเดีย บัลธาซา ภรรยาของนิโคลา ซึ่งจิตของเธอนั้นรวมกับสมองกลของเซบเซน เซบเซนนั้นไม่มีค็อกพิตในตัวแต่ใช้การออกคำสั่งจากภายนอก เมื่อเซบเซนสมบูรณ์ นิโคลาก็วางแผนหนีจากโซลาริส ปรากฏว่าตัวเองไม่รอด แต่ก็ได้สั่งให้เซบเซนพาลูกสาว มาเรีย บัลธาซา หนีไปยังนครเชวัทก่อนแล้ว มาเรียนั้นตอนนั้นยังจำความไม่ได้ แต่เมื่อโตขึ้นก็ทำหน้าที่ควบคุมเซบเซนให้ต่อสู้กับผู้รุกรานเชวัทมาตลอด

เซบเซนนั้นใช้รูปแบบของคาลามิตี้ เกียร์ไร้คนบังคับที่ไอแซ็ค บัลธาซา ปู่ของมาเรีย สร้างไว้ (คาลามิตี้นั้นถูกทำลายหลังจากที่เฟย ฟง หว่อง กับ บาร์โทโลมิว ฟาติม่า ตกลงไปในถ้ำใต้ทะเลทราย ไอแซ็คจำเวลทอล ซึ่งเป็นเกียร์ของเฟยได้และส่งคาลามิตี้ไปขัดขวางทั้งสองคนที่กำลังจะออกไปเบื้องบน แต่คาลามิตี้ก็ถูกพลังแฝงของเฟยทำลาย) โดยมีแขนสองข้างเป็นหมัดจรวดและแบ็คแพ็คด้านหลังนั้นเป็นไมโครมิสไซล์ลันเชอร์ เซบเซนยังเพิ่มมิสไซล์ลันเชอร์ไว้ที่นิ้วทั้งห้าและยังนับเป็นเกียร์ที่มีกำลังและพลังป้องกันในระดับสูง สำนึกของคลอเดียที่อยู่ในสมองกลของเซบเซนทำให้เซบเซนตอบสนองต่อคำสั่งของมาเรียเท่านั้น จริงๆแล้วเซบเซนมีสำนึกของตัวเองและสามารถเคลื่อนไหวได้เอง แต่คลอเดียไม่อยากให้มาเรียรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจึงไม่เคยเคลื่อนไหวเองมาก่อน

ส่วนนิโคลาเองนั้นก็ถูกโซลาริสล้างสมอง จนในที่สุดก็พัฒนาแอ็คท์เซน (#18) ขึ้นมาอีกเครื่อง และรวมจิตตัวเองไปไว้กับแอ็คท์เซนเสียด้วย แอ็คท์เซนนั้นใช้รูปแบบของเซบเซนแต่ได้เพิ่มอาวุธคือกราวิตี้ไรเฟิลและสามารถแปลงร่างเป็นแบบยานได้ แอ็คท์เซนยังติดตั้งระบบแจมเมอร์ซึ่งทำให้ระบบของเกียร์แบบปกติไม่ตอบสนองต่อการควบคุม ซึ่งในตอนที่นิโคไลบุกเข้าโจมตีเชวัทนั้น ระบบแจมเมอร์ทำให้เกียร์ของพวกเฟยไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เหลือแต่เซบเซนที่มีระบบประสาทเทียมเท่านั้น แต่มาเรียกำลังจิตตกเพราะเพิ่งรู้เรื่องเบื้องหลังของเซบเซนเลยไม่ได้ออกไปต่อสู้ จูจู สัตว์ประหลาดเผ่าอูกิจึงได้ขยายร่างไปสู้กับแอ็คท์เซนแทน ถึงจะสู้แอ็คท์เซนไม่ได้ แต่ความตั้งใจของจูจูก็ทำให้มาเรียตัดสินใจขึ้นควบคุมเซบเซนอีกครั้ง นิโคลาเปิดเผยเรื่องที่ตัวเองรวมกับแอ็คท์เซนและพยายามกล่อมมาเรียซึ่งกำลังสับสน แต่คลอเดียที่แสดงท่าทางต่อต้านผ่านเซบเซนอย่างชัดเจนทำให้เธอตัดสินใจสู้ ผลของการต่อสู้ทำให้นิโคลาได้สติกลับมาเป็นคนเดิมและได้ถ่ายทอดข้อมูลทั้งหมดของแอ็คท์เซนไปยังเซบเซน พร้อมปลดล็อกอาวุธสุดยอดของเซบเซน กราวิตอนแคนน่อน แล้วให้เซบเซนยิงทำลายแอ็คท์เซนจนแหลกไปแม้มาเรียจะพยายามห้าม คำพูดสุดท้ายของเขาก็คือ นิโคลาและคลอเดียในเซบเซนจะอยู่เคียงข้างมาเรียเสมอ

ข้อมูลของแอ็คท์เซนที่ถ่ายมายังเซบเซนนั้นทำให้พวกเฟยสามารถหาตำแหน่งของนครลอยฟ้าโซลาริสได้ ซึ่งเกียร์เพียงเครื่องเดียวในตอนนั้นที่มีกำลังพอจะฝ่ากำแพงมิติที่หุ้มโซลาริสและพาพวกเฟยเข้าไปภายในได้ก็มีเพียงเซบเซนนั่นเอง (จริงๆแล้ว ในตอนท้ายนั้นเซบเซนจะรับชิ้นส่วนของอนิมัสและกลายร่างเป็นออมนิเกียร์ เอลเซบเซนด้วย แต่อย่างที่รู้ๆกันว่าซีโนเกียร์แผ่นสองนั้นสแควร์เผาสุดๆให้ทันวางจำหน่าย เนื้อหาส่วนนี้เลยถูกตัดทิ้งไป)

(ทำไมเอามาลงก่อนพระเอกน่ะเหรอ? ก็เพราะคนบังคับน่ะสิ)

Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา