Mecha Story : ยังอยู่กับAOZ + ข้อมูลของW's side-stories

แก้ข้อผิด ขอเปลี่ยนชื่อRX-121จากฮาเซลเป็นเฮเซลนะครับ พอดีเพิ่งเห็นตัวคาตากานะ









NRX-044 อัชชิม่า

MSแบบแปลงร่างได้เครื่องแรกที่สามารถบินในชั้นบรรยากาศได้ด้วยกำลังของตัวเอง ในตอนแรกพัฒนาออกมาเป็นNRX-044[R] อัชชิม่ารุ่นต้นแบบTR3"คีฮาร" เนื่องจากในช่วงแรกนั้นมีปัญหาด้านโครงสร้างที่ทนแรงกดจากการแปลงร่างไม่ได้จึงคีฮารจึงทดสอบในอวกาศซึ่งไม่มีปัญหาด้านน้ำหนัก โครงสร้างของคีฮารนั้นมีความซับซ้อนสูงมากซึ่งเป็นต้นแบบของมูฟเอเบิ้ลเฟรมในอนาคต เนื่องจากใช้ในการทดสอบเท่านั้นคีฮารจึงไม่ได้หุ้มเกราะเต็มที่ คีฮารมีถังเชื้อเพลิงสามถังซึ่งมีท่อขับดันติดตั้งไว้ บีมไรเฟิลที่เป็นอาวุธของคีฮารสามารถใช้พลังงานจากตัวคีฮารโดยตรงหรือEแพ็คที่ติดไว้กับถังเชื้อเพลิงก็ได้

ต่อมาทิทานส์จึงใช้ข้อมูลของEFพัฒนาต่อมาเป็นNRX-044 อัชชิม่ารุ่นต้นแบบTR3"คีฮาร" ซึ่งคีฮารรุ่นนี้มีส่วนขาซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์ขับเคลื่อนหลักเอาไว้และมีท่อขับดันที่เกราะกระโปรงซึ่งใช้ในการบินขึ้นจากพื้นในร่างMSและในร่างMAจะมีปีกสำหรับควบคุมทิศทางซึ่งอัชชิม่ารุ่นผลิตจริงไม่มีส่วนนี้ คีฮารยังมีบีมกันแบบเดียวกับของดอมและบีมไรเฟิลยังสามารถใช้เป็นเคียวบีมในระยะประชิดได้

ในร่างMAของรุ่นผลิตจริงจะเป็นรูปกลมคล้ายๆUFOเพื่อลดแรงต้านของอากาศ มีความเร็วและความคล่องแคล่วสูงมาก นอกจากนี้เกราะของอัชชิม่ายังหนาและแข็งมากๆ แม้จะมีจุดด้อยที่มีอาวุธแค่บีมไรเฟิลขนาดใหญ่(แต่สามารถเพิ่มบีมเซเบอร์ได้ด้วย) แต่ก็นับเป็นMSที่แข็งแกร่งมากๆจนทิทานส์นำเข้าสู่การผลิตจำนวนมากในภายหลัง อัชชิม่ามีการเสริมแม็กเน็ตโค้ตติ้งเพื่อลดการเสียดสีของชิ้นส่วนต่างๆในตอนแปลงร่างด้วย







ORX-005 แกปแลนท์

MSแบบแปลงร่างได้จากสถาบันออกัสต้า สร้างมาให้เป็นMSสำหรับใช้งานในอวกาศแต่ก็สามารถใช้งานบนโลกได้ดีทีเดียว ในร่างMSนั้นไม่เท่าไหร่ แต่ร่างMAนั้นมีความเร็วที่สูงมาก แล้วก็มีท่อขับดันย่อยทำให้สามารถเปลี่ยนทิศทางได้โดยไม่ต้องเลี้ยวไปทั้งตัว

แต่แกปแลนท์นี่มีจุดอ่อนอยู่สองประการ นั่นคือแรงกดดันที่เกิดจากอัตราเร่งนั้นสูงมาก ถ้าไม่ใช่นิวไทป์ล่ะก็ต้องแกร่งจริงๆถึงจะใช้ลุยได้ อีกประการก็คือมันบริโภคพลังงานมาก จึงต้องเสริมบูสเตอร์พิเศษในการรบบนโลก

ทั้งนี้ยังมีแกปแลนท์รุ่นพิเศษนั่นคือ ORX-005 TR5 "ไฟเฟอร์" (YSF-33 คาเรียนฉบับกันดั้ม?) ซึ่งเป็นแกปแลนท์ในร่างMAที่ปรับปรุงประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์และเอาปืนอนุภาคที่แขนออกไปแล้วติดตั้งอุปกรณ์เสริม ไฟเฟอร์เป็นยูนิตที่ใช้ในการทะลวงแนวป้องกันของศัตรูจากระยะไกลเหมือนขีปนาวุธข้ามทวีป โดยการใช้กำลังบินออกจากโลกเข้าสู่วงโครจรระดับต่ำด้วยกำลังของตัวเองจากนั้นจึงกลับเข้าสู่บรรยากาศโดยใช้แรงโน้มถ่วงของโลกช่วยเร่งความเร็ว การหยุดการโจมตีจากไฟเฟอร์จึงแทบเป็นไปไม่ได้ ไฟเฟอร์มีเกราะเสริมเพื่อเพิ่มการป้องกันให้แกปแลนท์ เกราะนี้มีทั้งเครื่องกำเนิดพลังงานเสริม, ถังเชื้อเพลิงเสริม, ท่อขับดันเสริมและIฟิลด์บาเรียร์สำหรับป้องกันอาวุธบีม ไฟเฟอร์มีอาวุธเป็นบีมแคนน่อนแบบสาดกระจายซึ่งใช้พลังงานจากEแพ็ค



เพิ่มเติมของเฮเซล









อุปกรณ์เสริมอีกชิ้นก็คือยานFF-X29A ฮรุดด์ ซึ่งพัฒนามาจากยานGไฟเตอร์ของกันดั้ม แต่ไม่สามารถรวมร่างกันกลางอากาศได้ ปีกสองข้างของฮรุดด์สามารถขยับได้ ซึ่งข้างหนึ่งมีล็อกสำหรับติดตั้งEแพ็คและมีคีมขนาดใหญ่ไว้ใช้ยึดจับอาวุธ ซึ่งคีมนี้มีกลไกให้ยื่นออกมาและยังสามารถปล่อยบีมออกมาเป็นบีมกันหรือบีมเซเบอร์ได้ ฮรุดด์มีลำกล้องเสริมเพื่อใช้ประกอบกับคีมนี้เป็นบีมแคนน่อน ถ้ารวมร่างกับเฮเซลคัสต้อมก็จะกลายเป็นRX-121-1+FF-X29A เฮเซลราห์ โดยที่นอกจากจะมีอัตราเร่งที่สูงขึ้นแล้ว การขยับปีกของฮรุดด์ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบควบคุมทิศทางAMBACอีกด้วย ลำกล้องเสริมจะประกอบกับบีมไรเฟิลของเฮเซลคัสต้อมกลายเป็นลองเบลดไรเฟิลซึ่งมีพิสัยในการยิงพอๆกับสไนเปอร์ไรเฟิลและมีใบมีดความร้อนติดไว้เพื่อใช้ในการต่อสู้ระยะประชิด สมรรถนะของเฮเซลราห์นั้นสามารถเทียบได้กับMSที่พัฒนาในช่วงหลังของศึกกรีปส์ได้เลยทีเดียว

ส่วนเฮเซลทูว์นั้นในเวลาต่อมายังมีการปรับปรุงอีกขั้นเป็นRX-121-2A แอดวานซ์เฮเซลเพื่อให้มีสมรรถนะเทียบได้กับเฮเซลคัสต้อม โดยเพิ่มจุดล็อกอาวุธตามตัวและเซ็นเซอร์เสริมแบบจิมสไนเปอร์ทรี ที่ส้นเท้าของแอดวานซ์เฮเซลยังมีท่อขับดันขนาดเล็ก ไทรบูสเตอร์ถูกเปลี่ยนเป็นแบบใหม่ที่เคยใช้กับกัลบาดี้เบต้า ซึ่งดัดแปลงให้ติดตั้งโล่ชิลด์บูสเตอร์เสริมได้อีกสองอันเพื่อเพิ่มอัตราเร่งขึ้นอีก



ส่วนนี่เป็นข้อมูลเล็กๆน้อยๆของside storyระดับหายากของภาคWingครับ ใครมีรูปหรือข้อมูลที่ละเอียดกว่านี้ก็เอามาแบ่งปันกันหน่อยเน่อ (อันนี้ได้รับความเอื้อเฟื้อข้อมูลจากบอร์ดMAHQโดยคุณAmuroNT1)



สองตัวนี้ก็คือวิงกันดั้มเซราฟิม กับ กันดั้มเดรินเจอร์อาร์ม จากTale's Impulse อันนี้เท่าที่รู้เป็นหนังสือเกมEndless Waltz Saikyou no Playing Bookที่ใช้เนื้อเรื่องเป็นจักวาลคู่ขนานของEndless Waltz (ไม่รับประกันด้วยว่าเป็นภาคofficialรึเปล่า) นั่นคือสงครามครั้งแรกจบลงด้วยชัยชนะของรอมเฟลเลอร์ เทรซเสียชีวิต 5หนุ่มพลังYและเซคส์หายสาปสูญไปโดยไม่ทราบชะตากรรม ส่วนกันดั้มทั้งห้าถูกรอมเฟลเลอร์ยึดไปพัฒนาMSรุ่นใหม่ ส่วนเดคิมและมารีเมียร์ก็เฝ้ารอโอกาสในการยึดอำนาจ

เรื่องมันเกิดขึ้นในระหว่างการทดสอบXXXG-00W0L ลูซิเฟอร์กันดั้ม ซึ่งใช้พื้นฐานของวิงซีโร่และมีZEROซิสเต็ม ver.2.0 ซึ่งปรากฏว่าผลกระทบของver.2.0นี้รุนแรงกว่าของต้นแบบมาก นักบินของลูซิเฟอร์เลยบินหนีไปแบบไร้ร่องรอย พอดีว่าคนๆนี้เป็นพี่ชายของเทล นอนบลู พระเอกของเรื่อง เทลแอบขโมยXXXG-00W0S วิงกันดั้มเซราฟิม ซึ่งมีZEROซิสเต็ม ver.2.5ไปตามหาพี่ชาย (ตัวเซราฟิมเองเป็นโครงสร้างแบบวิงซีโร่คัสต้อม แต่ใช้บัสเตอร์ไรเฟิลรุ่นปรับปรุงแทนทวินบัสเตอร์ไรเฟิล) รอมเฟลเลอร์เลยส่งXXXG-01DG กันดั้มเดธไซท์กิลตี้ (ใช้เคียวบีมแฝดและระบบพรางตัวด้วยปริซึ่มอนุภาค)และ XXXG-01SRL กันดั้มแซนลีออง (ใช้ตะขอความเย็นแทนความร้อนของตัวเดิม) แต่เทลก็มีเพื่อนร่วมทางที่หนีมาจากOZเหมือนกัน นั่นก็คือคุนลุ้น ผู้ควบคุมXXXG-01ST เทนลอง(เทียนหลง)กันดั้ม (เป็นเชนลองแบบคลุมร่างด้ายเกราะสะท้อนบีมและติดตั้งZEROซิสเต็มสำหรับควบคุมMD OZ-11MS แคปปริคอน เป็นMDรูปแบบคล้ายลีโอแต่ติดแส้ความร้อนไว้ด้วย)

พวกเทลโค่นเดธไซท์กิลตี้และแซนด์ลีอองได้ แต่รอมเฟลเลอร์เก็บไปเพิ่มพลังโดยเสริมบีมแคนน่อนของไฮดร้ากันดั้มให้เดธไซท์และติดกงเล็บกับถังเชื้อเพลิงของกันดั้มแอสคิวลาปิอัสให้แซนด์ลีออง แม้พวกเทลจะยังกำจัดทั้งคู่ได้อีก แต่ก็ยังไม่เจอพี่ชายของเทลสักที ในขณะที่คุนลุ้นเกิดหลงเชื่อในอุดมการณ์ของเดคิมเข้าซะแล้ว แน่นอนว่ายังมีต่อ แต่หาข้อมูลไม่ได้แล้วล่ะ (XXXG-01HD กันดั้มเดรินเจอร์อาร์มเป็นเฮฟวี่อาร์มที่ถูกดัดแปลงสำหรับสู้ในบริเวณจำกัด รูปแบบเหมือนเฮฟวี่อาร์มคัสต้อมแต่ใช้บีมแก็ตลิ่งแฝดแทนและทาสีแบบเฮฟวี่อาร์มตัวแรก ส่วนหัวไม่มีเสาอากาศ)



side storyของวิงอีกภาคนึงไม่มีรูปเลย แต่เคยได้ยินชื่อมานานแล้วก็คือนิยายA Scythe in My Right Hand, You in My Left ฟังจากชื่อก็คงเดาออกว่าภาคนี้ดูโอ้ แม็กเวลเป็นพระเอก (ข่าวว่าหนุ่มพลังYที่เหลือออกมาเป็นตัวประกอบกันครบ ฮีโร่เด่นหน่อยแต่ไม่ถึงกับขโมยซีนไปได้ ส่วนตัวประกอบที่เหลือหายเรียบ) เนื้อหาเป็นช่วงหลังจากภาคTVซึ่งดูโอ้ไปเจอกิ๊กเป็นมัคคุเทศน์สาวน้อยน่ารักประจำโคโลนี่ แต่ปรากฏว่าเธอเป็นลูกสาวของ"มาดามL" หนึ่งในอดีตก๊วนนักวิทยาศาสตร์ของดร.J ซึ่งมาดามLได้พัฒนาMS "เลมมิ่ง" (ชื่อน่ารัก แต่เป็นMSแบบครึ่งคนครึ่งงู แถมมีระบบแบบเบอเซอเกอร์ซิสเต็มของโนเบลกันดั้มแต่หนักกว่าเพราะมีผลกระทบต่อทุกๆคนในรัศมีใกล้เคียงกับเลมมิ่งด้วย) ซึ่งมาดามLใช้ลูกสาวตัวเองเป็นนักบินทดสอบ ในตอนจบก็คือนางเอกภาคนี้ตาย ดูโอ้ขอยืมวิงซีโร่มาจากฮีโร่เพื่อทำลายเลมมิ่งให้สิ้นซาก
Anime Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา