บันทึกสิ้นคิด: เมื่อเชียงใหม่กลายเป็นวอเตอร์เวิร์ด

ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมาผมกลับเชียงใหม่ไปแอ่วบ้านตามธรรมเนียมปิดลองวีคเอนด์

นั่ง one - two Go ทั้งขาไปและขากลับและสาบานกับตัวเองว่าจะไม่นั่งสายการบินนี่อีกเป็นครั้งที่สอง หลังจากขาไปมันดีเลย์ 4 ชม. และขากลับมันดีเลย์ 2 ชม.ครึ่ง จนกว่าจะมีข่าวลือว่ามันปรับปรุงคุณภาพการตรงเวลามากกว่านี้ (มันน่านัก ออกออฟิสบ่าย 3 ถึงบ้าน เที่ยงคืน..... ถ้าผมนั่งรถทัวร์หมอชิตไป ผมถึงบ้านเวลาไม่ต่างกันเท่าไหร่เลยนะนั่น)



เคยได้ยินข่าวลือ และจากการสังเกตุว่า one - two Go นั้นไร้เส้นสายไร้กำลังภายใน ไม่เหมือนนกแอร์ที่เป็นของการบินไทย และแอร์เอเซียที่เป็นของทั่นนายก บริการอำนวยการสะดวกจากสนามบินและการปล่อยคิวบินของ one - two Go จึงเหมือนเป็นลูกเมียน้อยยังไงไม่รุ ที่เช็คอินกอยู่มุมๆ gate ที่ลงก็ต้องเดินลงไปชั้นล่าง แถมเวลาเครื่องบินจะเทคออฟนั้นต้องรอให้เครื่องยี่ห้ออื่นเทคหมดถึงจะได้ไป ซึ่งตรงนี้ถ้าเป็นเรื่องจริงส่วนนึงเห็นใจที่one - two Go นั้นกำลังแพ้สงครามกำลังภายในที่โยงใยถึงระบบอุปถัมภ์ที่เป็นใหญ่ของประเทศนี้เพื่อที่จะบีบให้ออกไปจากตลาด แต่ในมุมมองของลูกค้าที่เดือดร้อน การเสียเวลาคือการความน่าเชื่อถือของเที่ยวบินน่ะครับ จะให้ผมเห็นใจแต่เสียเวลาไปนั่งแกร่วหน้าเกทเป็นวันๆก็คงไม่เอาด้วย



ต่อถึงเรื่องเมืองเชียงใหม่ กลังจากกลับถึงบ้านผมไปหลั่นล้าได้ประมาณ 2 วัน ตลอดเวลาที่อยู่เชียงใหม่ 3วัน3คืนนั้น ฝนไม่เคยหยุดตกเลย แม้จะหยุดๆซักแป๊บเดี๋ยวก็มาอีกแล้ว ในตอนนั้นผมกับเพื่อนยังเฮฮาอารมณ์ว่า ต้องเย็นๆสบายๆ ฝนปรอยๆแบบนี้สิ่งถึงจะเป็นเชียงใหม่บ้านเฮา



หารู้ไม่ว่า มันตกหนักเกินไปแล้ว(โว้ย)เอาตอนเช้าวันอาทิตย์วันขึ้นเครื่องบินกลับ

ตอนเช้าวันอาทิตย์แม่ผมบอกให้ผมรีบไปทำธุระ(ตัดผม) ก่อนที่จะกลับกทม.ซะ เพราะมีข่าวว่าน้ำกำลังจะท่วม ในตอนนั้นใครจะไปนึกว่ามันท่วมได้หนักและรุนแรงขนาดนี้ เพราะตั้งแต่ผมเกิดมาผมยังไม่เคยเห็นน้ำท่วมถึงบริเวณบ้านผม(หน้าโรงเรียนปรินซ์) เสียที อย่างเก่งด็น้ำขังนิดๆหน่อยๆ



กลับจากตัดผมตอนนั้น 10 โมงครึ่งเริ่มเห็นแววหายนะรางๆ เพราะน้ำที่ว่านี่มันไหลย้อนมาจากทางท่อระบายน้ำครับ มันหาได้มาจากทางแม่น้ำอย่างเดียวไม่ เมื่อระดับน้ำมันสูงกว่าท่อระบายน้ำ ตามคุณสมบัติการรักษาระดับของน้ำมันจึงทะลักออกท่อดังนี้แล....ซึ่งระดับน้ำในตอนนั้นเหลืออีกคืบเดียวมันจะล้นตลิ่งแหล่ว แม่ผมสั่งให่ผมปั่นจักรยานพิกเจี้ยน (จักยานตรานกยูงที่ ทำเลียนแบบจักยานเฟสสันรุ่นหม่าม๊าจ่ายตลาดในอดีตมาขาย นั่งได้สองคน ล้อสูงๆ มีตระกร้าอยู่ข้างหน้า เป็นที่โปรดปรานของแม่ผมมาก ) ไปดูร้านที่ถ.ช้างม่อยว่าเป็นบ้าง ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่มีอะไรมากเห็นน้ำออกมาจากท่อประปราย



เพิ่งรู้นี่แหละครับในยามน้ำท่วม จักรยานเป็นพาหนะที่พึงมี เพราะ1. หมาต๋าไม่โบกไม่ห้ามจะไปตายที่ไหนก็เรื่องของเอ็ง ไม่เหมือนมอไซค์กับรถยนต์ที่จะโดนโบกห้ามเข้าบริเวณที่น้ำท่วม 2. ไม่มีหัวเทียนบอด 3. คล่องตัวสูงน้ำท่วมก็ไต่ฟุตบาทไป และ 4. ปั่นไปก็ไม่โดนชาวบ้านแถวนั้นด่าพ่อเพราะน้ำไม่กระฉอกใส่ไม่เหมือนรถ 4wd สันดานเจี้ยคันนึงที่น้ำท่วมสูงครึ่งล้อแต่ยังทำโชว์พาวเหยียบเต็มตีนน้ำกระเด็นใส่คนรอบๆจนหมด ผมแอบแช่งให้น้ำเข้าหัวเทียนมัน t(- -*)



"อาโอบะสองล้อห้อลุยน้ำจงเจริญ" \(*0*)/



จนถึงบ่ายสถานการณ์เริ่มไม่ดีแล้วน้ำในตอนเช้าๆที่เหมือนจะหยุดที่กาดหลวงเท่านั้นกลับขยายตัวเข้ามาเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆ จนถึงถนช้างม่อย แน่นอนว่ามามุขเดิมคือ "มาตามท่อ" จนเกือบ 4 โมงเย็น ถ.ช้างม่อยก็เกือบล้นฟุตบาท......



ก่อนที่ผมจะต้องจำยอมถอนตัวไปขึ้นเครื่องบินกลับกทม. หลังจากช่วยขนของชั้นล่างหนีน้ำไปหมดแล้วสภาพบ้านผมในตอนนั้นแทบไม่น่าเชื่อว่ามันจะท่วมได้ถึงเกือบขึ้นบ้าน(พื้นชั้นล่างบ้านผมยก ราวๆ1.4 เมตร ระหว่างที่น้ำกำลังขึ้นมันไต่มาถึงบันไดขึ้นที่ 4 จาก 5 ขั้นแหล่ว.....) ส่วนถ.สันป่าข่อยและพวกถนนเรียบริมปิงทั้งหลายคงไม่ต้องพูดถึง ครึ่งเข่าถึงเอวแทบทุกเส้น เนื่องด้วยว่าพ่อผมออกไปซื้อของแล้วเอารถกลับเข้ามาไม่ได้เลยจอดรถทิ้งไว้แถวๆคูเมืองผมเลยต้องเดินลุยน้ำแบกของไปขึ้นรถพ่อที่แถบแจ่งศรีภูมิ ก่อนที่จะห้อไปสนามบิน ทิ้งไว้แต่เมืองเชียงใหม่ที่กลายเป็นวอเตอร์เวิร์ดให้จดจำ



จนเมื่อคืนก็พบว่าเหตุการณ์เริ่มเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ จนระดับน้ำแม่น้ำปิงสูงเกือบ 5 เมตร !!!!

พระเจ้าจอร์จ !!! ชั่วชีวิตที่เกิดมาผมไม่เคยเห็นน้ำปิงสูงได้ขนาดนี้มาก่อน...



เมื่อเช้าโทรหาที่บ้านจึงได้ใจความว่าระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว แต่ทางด้านหนองหอย และเชียงใหม่ตอนล่างกำลังจะรับเคราะห์กระหน่ำซัมเมอร์เซลต่อไป โดยมีแพร่ น่าน ลงไปเรื่อยๆ จนน่าจะถึงเขื่อนภูมิพลที่ตากตามลำดับ



เป็น Once upon time จริงๆ



กระทู้รูปประกอบเหตุการณ์

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E3668145/E3668145.html

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E3669075/E3669075.html

http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E3669166/E3669166.html



ปล. ตลอดวันที่น้ำท่วมผมฟัง FM 100 รายงานสถานะการณ์ เพลงที่ถูกขอมากที่สุดคือเพลง

"อยากให้มีไฟแดงนานกว่านี้หน่อย เผื่อว่าจะได้ขายมาลัยให้หมด" บ่อยมากๆ :???:
Miscellaneous

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา