จดหมายถึงศิราณี

ถึงพี่ศิราณี ที่นับถือ

นู๋ได้ติดตามการตอบจดหมายของพี่ศิราณีมานานมากแล้วนะคะ…

แต่ก็ไม่เคยเขียนจดหมายมาถึงพี่เลย

จนวันนี้… นู๋มีเรื่องรบกวนต้องให้พี่ศิฯของนู๋ ช่วยแล้วล่ะค่ะ

ตอนนี้นู๋อายุ 15 นะคะ เพิ่งทำบัตรไม่นานนี่เองค่ะ …

นู๋มีเพื่อนคนนึงนะคะเป็นผู้ชายค่ะ

สมมุติชื่อ ต. ละกันค่ะเราคบกันมานานหลายเดือนแล้วค่ะ

รู้จักกันทางเน็ต … ผ่านเว็บพันธุ์ทิพย์นี่แหละค่ะ

ก็โทร.คุยกัน chat กัน…เมล์หากันเรื่อยมาค่ะ

แต่ไม่เคยเห็นหน้ากันนะคะจนมาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา…

เค้าก็ขอนัดพบนู๋ เค้าว่าเค้าอยากเจอนู๋ … นู๋เล่นตัวเล็กน้อยพอเป็นพิธี…

ทั้งที่ใจระริกอยากตอบตกลงใจจะขาด

นู๋บอกว่าไปไม่ได้มีธุระ… คุณแม่ไม่ชอบให้ไปกะผู้ชาย…แหลสารพัดค่ะ

จนเค้าเริ่มเปลี่ยนใจ จะไม่ชวนแล้ว

นู๋ใจแป้วเลยค่ะ … รีบบอกทันทีว่า “ถ้าคุณ ต. ตื๊ออีกนิดนู๋อาจเปลี่ยนใจ…”

แต่เค้างี่เง่าค่ะ … บอกเกรงใจนู๋ เป็นอันว่านู๋เป็นฝ่ายชวนเค้าไปแทนค่ะ …

(แต่ไม่เป็นไรนะคะ นู๋เต็มใจ)

และแล้ววันนัดก็มาถึง…

เรานัดกันที่หน้าร้านพันธุ์ทิพย์ตามแบบฉบับโลกไซเบอร์…

แต่นู๋บอกชัดเจนนะคะว่า…

พันธุ์ทิพย์หน้าร้านซีเอ็ดบุ๊คค่ะ แล้วค่อยไปต่อกันที่สยามหรือมาบุญครอง…

(แหลอีกแล้วค่ะออกนอกประเด็น)…

แถวแถวนั้นจะมีโรงหนังแต่กะว่าถ้ามาเจอกัน ..

นู๋จะล่อลวงเค้าไปดูหนังกะนู๋เลยค่ะ…

อ้อลืมบอกไปว่า

เค้าจะมาในชุดเขียว กางเกงดำค่ะ นู๋บอกเค้านู๋จะใส่เกาะอกสีดำไปค่ะ…

ถึงสัดส่วนนู๋ไม่เป็นใจแต่นู๋จะพยายามรัดค่ะ

เอาให้อกเป็นอก พุงเป็นพุง…

พอถึงเวลานัดนู๋ก็เห็นเค้ามาแต่ไกลเลยนะคะ…

หล่อมากกกกกกกกกกก ค่ะ ขอบอก

ด้วย sense ของนู๋ นู๋ก็รู้ว่าใช่แน่นู๋ก็เดินรี่เข้าไปหาเค้าเลยค่ะ…

สอบถามก็ใช่จิงจิงค่ะ

^_^ (ดีใจ ชะเอิง เอิง เอย)

แค่เจอะหน้าครั้งแรก…นู๋อยากเปลี่ยนความสัมพันธ์ของเราจากเพื่อนมาเป็นพ่อ

ของลูกหนูทันทีเลยค่ะ…

หล่อจิงจิงค่ะ… หล่อระเบิดระเบ้อ…

หล่อสะบัด… หล่อสุดสุด

นู๋มองเค้าด้วยสายตาอยากกลืนกินเค้าไปทั้งตัว…

นานกว่า 3 นาทีกว่าจะเริ่มพูดคุยกัน

เค้าก็เหมือนกันค่ะ…มองนู๋ด้วยความตะลึงต่างกันนิดเดียวค่ะ

สายตาเค้า เหมือน…เหมือน…

สมเพชนู๋ไงไม่ทราบแต่ไม่เป็นไรค่ะ…ถึงนู๋ไม่สวยแต่นู๋ self ค่ะ

…นู๋รีบแสดงความเป็นเจ้าของในตัวเค้าทันที

ด้วยการคล้องแขนเค้าประกาศให้โลกรู้ว่าผู้ชานคนนี้นู๋จอง…

นู๋ก็รีบจูงเค้าไปซื้อตั๋วหนังค่ะ

หนังเรื่องอะไรนู๋ไม่สนใจ…สนใจว่าจะลากเค้าไปดูหนังกัน 2 ต่อ 2 เท่านั้น…

เค้าก็อึ้งอึ้งค่ะ

พอเข้าไปนะคะ…นู๋ก็ชวนเค้ากินป๊อปคอร์นค่ะ

กะว่าตอนหยิบจะให้มือมาจับกันแบบในหนังที่นู๋เคยดู

แต่เค้าก็ไม่กินค่ะปล่อยให้นู๋กินคนเดียวจนเกือบหมด…

ถามเค้า…เค้าก็บอกว่าไม่หิว

นู๋คิดในใจ…(ป๊อปคอร์นแค่นี้มันทำให้อิ่มนักรึไงวะ…)

นั่งดูไปซักครึ่งเรื่องหนังก็สนุ๊กสนุกนะคะ… แต่เค้าสิคะนั่งนิ่งๆ

สลับกับถอนหายใจเป็นบางเวลานู๋คิดว่าเค้าคงไม่ชอบดูหนังเท่าไหร่

ต้องใช่แน่ๆเลย…

นู๋เกรงว่าเค้าจะเบื่อค่ะ… ก็เลยเริ่มเอนตัวไปหาเค้า… กะจะซบไหล่เค้าอ่ะค่ะ…

^_^ อิอิ

พอซบแล้วเค้าก็นั่งตัวเกร็งค่ะ… นู๋ว่าเค้าคงชอบ…

นู๋ก็เลยนอนอยู่อย่างนั้น จนหนังจบค่ะ…

พอออกมาเวลาก็เกือบๆ 6 โมงเย็น… นู๋กะจะชวนเค้าไปต่อค่ะ…

ไปเดินช็อปปิ้งซื้อของแล้วค่อยไปหาอะไรกินกัน

ตามประสาข้าวใหม่ปลามัน…

แต่เค้ายกนาฬิกาขึ้นมาดูแล้วทำท่ารี๊บรีบบอกว่าเค้ามีนัด…ต้องรีบไป

นู๋ก็เซ้าซี้เล็กน้อยบอกว่าอย่าเพิ่งไป…นู๋ยังอยากรู้จักเค้ามากกว่านี้…

เค้าทำหน้าตาลำบากใจมากค่ะ

(แต่ก็ดูน่ารักนะคะ…นู๋ชอบค่ะ…หน้าตาลำบากใจของผู้ชายเนี่ย)

“เอาค่ะ…เอาค่ะ” นู๋พูดกับเค้า… บอกให้เค้ากลับไปก็ได้ นู๋ยอมค่ะ…

แต่คืนนี้ต้องโทร.หานู๋นะคะ

เค้าดีใจค่ะ…เหมือนนกบินออกจากรัง

นู๋ก็ดีใจค่ะ…ที่เค้ารักบ้านอยากไปทำธุระกับทางนู้น…

อย่างนี้เกิดนู๋กับเค้าแต่งงานกัน

เค้าคงต้องรักครอบครัวแน่ๆเลยค่ะ… จริงมั้ยคะพี่ศิฯ

คืนนั้น…นู๋เฝ้ารอโทรศัพท์ค่ะ รอ…ร๊อ…รอ… จนถึงตีสามเค้าก็ยังไม่โทร.มา…

ปกตินู๋จะโทร.ไปคุยบ่อยอยู่นะคะ…

นู๋ทนรอต่อไม่ไหวก็เลยโทร.ไปหาเค้าเองเลยค่ะ

แต่โทรไปสายก็ไม่ว่าง…

เอ๊ะหรือว่าเค้าอาจเล่นเน็ต… นู๋ก็เลยเข้าในเน็ต… เปิด ICQ เผื่อเค้าจะอยู่…

แต่เค้าก็ไม่เข้ามาค่ะ

นู๋รอจนเริ่มท้อค่ะ… ก็เลยเผลอหลับไป

ตั้งแต่วันนั้น…จนถึงวันนี้ผ่านไปเป็นเดือนๆ…

นู๋ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเค้าเลยค่ะ…

โทร.ไปสายก็ไม่ว่าง…เมล์ไปก็ไม่ตอบ…นู๋เป็นห่วงเค้าค่ะ

กลัวว่าเค้าจะเกิดอุบัติเหตุอะไรหรือเปล่า…

เป็นอะไรมั้ย… เฮ้อ…กลุ่มใจค่ะ นู๋ขอถามพี่ศิฯ ดังต่อไปนี้นะคะ

1.ที่นู๋ซบไหล่เค้าในโรงหนัง…นู๋จะมีสิทธิ์ท้องได้หรือเปล่าคะ…

แล้วถ้าท้อง เค้าจะรับเป็นพ่อเด็กในท้องมั้ยคะ

2.เค้าเป็นอะไรรึเปล่าคะ ทำไมไม่ติดต่อมา … นู๋เป็นห่วงกลัวเค้าจะเกิดอันตรายค่ะ…

3.พี่ศิฯว่าเค้ารักนู๋จริงมั้ยคะ…

นู๋กลัวว่าถ้าเกิดเผลอตัวเผลอใจยอมเค้าแล้ว…เค้าจะทอดทิ้งนู๋ค่ะ

4.อืม…เกิดสมมุติว่าเราตกลงแต่งงานกัน… พี่ศิฯว่าเราจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรดีคะ…

ฮิฮิ…เขิลค่ะ

5.ข้อสุดท้ายนะคะ พี่ศิฯ คิดว่าเค้าเป็นคนยังไงคะ… (แต่นู๋ว่าเค้าไม่เลวเลยนะคะ)

ขอรบกวนพี่ศิฯ แค่นี้นะคะ… หวังว่าพี่ศิฯ คงกรุณาตอบคำถามของนู๋โดยเร็วนะคะ…นู๋จะรอค่ะ



ป.ล. อ้อ…นู๋ลืมบอกไปค่ะว่าก่อนที่เค้าจะกลับ…เค้าซื้อของที่ระลึกให้นู๋ด้วยค่ะ…

แหม…ไม่อยากบอกเลย แต่ไม่เป็นไรมั้งคะบอกแค่พี่ศิฯ คนเดียว… อืม…

เค้าซื้อกระจกให้นู๋ค่ะ น่ารักจังเลย

เค้าคงคิดว่านู๋ชอบแต่งตัวสวยๆ… เลยซื้อกระจกเอาไว้ให้นู๋ส่องอ่ะค่ะ…

อย่างงี้แปลว่าเค้าก็ต้องมีใจให้นู๋ด้วยใช่มั้ยคะพี่ศิฯ… ^_^





และแล้วฝ่ายชายก็เขียนจดหมายไปหาพี่ศิราณีเป็นเนื้อความว่า…

ถึงพี่ศิราณีที่ผมนับถือ…

ผมได้ติดตามการตอบจดหมายของพี่มาเป็นเวลานานแล้วครับ

แต่ก็เป็นเพียงการอ่านเท่านั้น

โดยไม่คาดคิดว่าจะได้มีโอกาสนำความเดือดร้อนของตัวเองมารบกวนพี่…

เรื่องโชคร้ายของผมเกิดขึ้นโดยมีโลกของอินเตอร์เน็ตเป็นสื่อครับ…

ใช่แล้วครับ ผมพบผู้หญิงคนหนึ่งในเน็ต ผ่านทางเว็บพันธุ์ทิพย์ครับ

สมมุติว่าเธอชื่อ อ. แล้วกันนะครับ (ย่อมาจากอุบาทว์)

ในครั้งแรกที่ทำให้ผมประทับใจในตัวเธอคือสมองครับ…

อย่าครับ อย่าเพิ่งหัวเราะเยาะผม เพราะผมเป็นผู้ชายซึ่งมองการณ์ไกล

ผู้หญิงทุกคนที่ผมคบสมองต้องสำคัญเป็นอันดับหนึ่งครับ

และผู้หญิงคนนี้เองก็สร้างความประทับใจให้แก่ผมอย่างมากมาย

ผมเพียรพยายามหลายครั้งหลายคราที่จะขอนัดเดทกับเธอ

แต่เธอก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด…

เห็นมั้ยครับ

เธอช่างมีความเป็นกุลสตรีจริง แต่ความพยายามของผมก็เกือบเป็นหมัน

เพราะความใจแข็งของเธอเนี่ยแหละ

จนกระทั่งวันหนึ่ง… เหมือนฟ้าผ่า เอ๊ย! …ฟ้ามาโปรด

เธอโทร.มาขอนัดพบผม แล้วเธอก็นัดพบที่หน้าห้างพันธุ์ทิพย์

เห็นมั้ยครับเธอช่างเปี่ยมไปด้วยมันสมองซะจริงๆ

แทนที่จะนัดที่เซ็นเตอร์พอยท์ หรือศูนย์การค้าธรรมดาๆทั่วไป

มันยิ่งเพิ่มความประทับใจให้ผมมากขึ้นไปอีก ผมวาดฝันถึงภาพของเธอ…

ผู้หญิงสูงโปร่ง ขายาวเรียวเหมือนซอนย่า

จมูกโด่งเหมือนน้องฟ้า และสมองประหนึ่งน้องป๊อบ…

ผมนั่งนับรอวันนั้นครับ จนกระทั่ง…วันนั้น…ที่หน้าร้านซีเอ็ดบุ๊ค

ผมมองหานางในฝันของผม แต่ฉับพลัน…

ยัยเตี้ยล่ำ ดำปี๋ ฟันเหยิน กรามเหลี่ยม ก็เข้ามาทักผม… ไม่!!!

…เสียงร้องในใจของผมปฏิเสธออกมาทันทีว่าต้องไม่ใช่

แต่เธอยืนยันครับว่าเป็นเธอเนี่ยแหละ……

โธ่… ชีวิตของผมต้องมาพังพินาศลงก็คราวนี้เอง

สมองผมตอนนั้นมึนตึ๊บไปหมดแล้วครับ มารู้ตัวอีกทีก็หน้าโรงหนังแล้ว

และแขนของยัยผีเสื้อสมุทรนั่นก็เกาะหนึบอยู่กับแขนผม…

สายตาทุกคู่จ้องมายังผม

นี่ผมจะทำอย่างไรดีถ้าพ่อแม่ผมรู้เข้า ต้องตัดผมออกจากกองมรดกเป็นแน่นอน

แม่นั่นพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ผมตกเป็นของเธอ

ทั้งเกาะแกะ เสนอของกินให้ผม

โธ่…อารมณ์นั้นใครจะรับประทานลงล่ะครับ

มีแต่อยากจะขย้อนของเก่าออกมาล่ะไม่ปาน…

แต่ที่หนักที่สุดก็คือเธอเอาใบหน้าที่เต็มไปด้วยหัวสิวมาพิงกับไหล่ของผม

แน่นอนครับ…ประสาททุกส่วนของผมมันตายด้านไปหมด

ชีวิตมันช่างบัดซบอะไรเช่นนี้

พระเจ้าให้ผมเกิดมาแล้วส่งสิ่งสยองขวัญที่สุดในโลกมาด้วยทำไม…

และแล้วเวลาที่ผมรอคอยก็มาถึง

ทันทีที่หนังจบลงผมแทบจะกระโดดออกมาจากที่นั่น

ซึ่งกว่าเธอจะยอมปล่อยผมออกมาได้

ผมก็ถูกเธอข่มขืนทางสายตา ไม่น้อยกว่าสิบครั้ง……

แต่ก็ช่างเถอะครับ รอดมาได้ก็บุญแล้ว

ทันทีที่ผมกลับบ้านผมรีบแช่ตัวลงในอ่างน้ำซึ่งใส่เดทตอลไปเกือบค่อนถัง

หวังจะชะล้างคราบต่างๆนานา ที่เกิดขึ้นในวันนี้

หลังจากวันนั้นเธอยังเพียรพยายามติดต่อผมทุกวิถีทางทั้งโทรศัพท์ และ ICQ

แต่ผมไม่ยอมหลงกลอีกแล้วครับ ผมดึงสายโทรศัพท์ออก

พร้อมๆ กับตั้งใจจะหันหลังให้เครื่องคอมพิวเตอร์ตลอดชีวิต…

มาถึงตอนนี้ผมมีคำถามจะถามพี่ศิราณีดังนี้ครับ

1.ที่เค้าซบไหล่ผมในโรงหนังพร้อมกับทิ้งคราบน้ำเหลืองจากหัวสิวไว้นั้น

จะทำให้ผมติดโรคอะไรมั้ยครับ

2.เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น มันจะเป็นตราบาปในชีวิตของผมมั้ยครับ

กับการที่ผมได้เข้าใกล้สิ่งน่าเกลียดน่ากลัวแบบนั้น

3.พี่ศิราณีคิดว่าเธอจะยังตามมาหลอกมาหลอนผมอีกมั้ยครับ

แล้วทำยังไงถึงจะหนีเธอพ้นครับ

4.สมมติว่าวันนึงเธอบังเอิญตามหาตัวผมจนเจอ ผมควรทำอย่างไรดีครับ

5.และข้อสุดท้าย เรื่องที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้ผมสามารถแต่งงานกับหญิงอื่นได้มั้ยครับ จะมีใครรังเกียจประวัติครั้งนี้ของผมมั้ยครับ

หวังว่าสิ่งที่ผมพร่ำพรรณนามาทั้งหมดนี้คงจะไม่เป็นการรบกวนเวลาอันมีค่าของพี่นะครับ เพราะผมร้อนใจมาก แล้วผมจะรอคำตอบจากพี่นะครับ





credit FW mail



ถ้าคุณเป็นศิราณีจะตอบว่ายังไงครับ



อือื จะรอฟังคำตอบนะ

Miscellaneous

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา