ควันหลง Japan New Year Trip ส่งท้ายปลายปี 2548 [อาหารล้วนๆ]

ซ่อนดีกว่า จะได้ไม่มีคนนอกมาแอบดูแล้วเก็บไปนินทาบ้าๆบอๆ เบื่อ

กระทู้ยั่วน้ำลายตามธรรมเนียมแบบชาว GG คนนอกไม่มีวันเข้าใจ :devil:



[hide=login]วันที่ 27 ธ.ค. สนามบินดอนเมือง ประเทศไทย

ด้วยความหิว นักเดินทางทั้ง 3 จึงแวะร้านเบอร์เกอร์คิงก่อนไปขึ้นเครื่องบิน

โปรโมชั่นใหม่ของ Burger King ช่วงนั้นคือ เบอร์เกอร์ชุดพิเศษ King Kong พี่คุม่าสั่งแบบเนื้อ 3 ชิ้น



นี่คือการ"กินแฮมเบอร์เกอร์แบบผู้ดี" โปรดสังเตนายแบบ ใส่เสื้อสุทเหมือนนักธุรกิจ ก๊ากๆ





ผู้ดีต้องกินแฮมเบอร์เกอร์โดยใช้เนื้อประกบใส้แทนขนมปัง...

/me เผ่นโลด ก่อนถูกผู้ดีเตะ



วันที่ 27 ธ.ค. โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ไปถึงที่พักในเวลาค่ำอย่างหิวโหย แล้วปอบไทยทั้ง 3 ตนก็ออกท่องราตรี อาละวาดใกล้ๆที่พักนั่นเอง ร้านที่พบโดยบังเอิญก็คือร้าน HIDAY สาขา Asakusa เห็นมีหลายสาขาแบบนี้แล้วนึกถึงร้านฮะจิบังในเมืองไทยเลยแฮะ ท่าทางเป็นร้านประเภทแฟรนไชน์สเหมือนกัน





นี่คือชื่อร้าน เขียนไว้บนกำแพงข้างในร้าน ตัวใหญ่ชัดเจนดี อิอิ





อากาศหนาวๆแบบนี้ ทงโคทสึราเมงเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว มันแว้บ...กินแล้วอ้วน ราคาน่าจะประมาณ 500 เยน





อาหารชุดที่พี่คุม่าสั่ง มันคืออะไรก็จำไม่ได้แล้ว ต้องรอเจ้าตัวมาบรรยายเอง ราคาจำไม่ได้ น่าจะประมาณ 850 เยน





ทงโคทสึเนงิราเมง กับไข่ 1 ฟอง (ราคารวม 620 เยน) สั่งเพราะชอบกินต้นหอมญี่ปุ่น แต่มันมาขนาดนี้.....กินไม่ไหวอ่ะ เผ็ด+ฉุนอย่างแรง สุดท้ายต้องเหลือต้นหอมทิ้งไว้ครึ่งถ้วย T-T





หนวดปลาหมึกชุบแป้งทอด อร่อยมาก กรอบๆมันๆ





เกี๊ยวซ่า ข้างนอกกรอบข้างในนุ่ม ไส้มีผักปนเล็กน้อย ปรุงหมูมารสชาติดีเลยทีเดียว



หลังมื้อเย็น แวะซื้้อของที่คอนวีเนี่ยนสโตร์ โมจิก็ต้องซื้อทีรามิซุของ AM PM ตามระเบียบ อิอิ อร่อยมาก กล่องข้างๆเป็นกาแฟนมแบบ French ที่ Zeph ซื้อมา อร่อยเช่นกัน







วันที่ 28 ธ.ค. ออกจากที่พักสายนิดหน่อย จุดหมายแรกคือ Nakano เพื่อไปซื้อของเล่นหรือฟิเกอร์ต่างๆ ซึ่งเขาว่ากันว่าแหล่งของที่นี่ ถูกกว่าอากิบะ



พอถึงที่หมายก็เริ่มหิว เมื่อประชุมแล้วสรุปว่าถึงเวลากินข้าวมื้อ brunch สายตาอันแหลมคมดุจหมีก็เริ่มสอดส่ายหาเหยื่อ ในที่สุดก็ไปเจอกันโซซูชิ เจ้าเก่า อันที่จริงไม่ได้กะจะกินแต่ร้านเดิมนี่หรอก แต่พอดีเห็นแล้วอยากกิน + ตอนแรกคิดว่าอาจจะไม่ใช่ก็ได้ อาจจะแค่หน้าร้านคล้ายๆกัน ก็เลยลองเข้าดู ปรากฏว่ากลายเป็นร้านยี่ห้อเดิมที่กินประจำที่ Akihabara ซะนี่ ^^;; เหอๆ สงสัยชะตากรรมจะหนีร้านนี้ไม่พ้น

อิอิ



ดูป้ายหน้าร้าน บรรยากาศในร้าน ป้ายโฆษณา(เดี๋ยวนี้มีบาร์โค้ดให้สั่งซูชิทางมือถือได้ด้วย!) นาฬิกาสุดเริ่ด(น่ากิน) และป้ายบอกราคาของจานแต่ละสี











จานแรกของเซ็ฟ ตามธรรมเนียม ต้องเป็นหน้าทามาโกะยากิ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันนั่งยันนอนยันว่า สาขานี้ทำอร่อยกว่าสาขาอากิบะ จานที่สองคือ Salmon ซึ่งทริปนี้ไม่ถ่ายแบบใกล้ๆแล้ว เพราะไปทีไรก็ถ่ายแต่ salmon หนนี้เบื่อแล้ว :D ไม่ต้องถ่ายละกัน





ส่วนจานแรกของพี่คุม่า ไม่รู้เป็นอะไร มองไม่ทัน จานต่อมาเป็นซูชิกุ้งหวาน ซึ่งก็อร่อยดี แต่ส่วนตัวแล้วโมจิไม่ชอบเพราะมันกินแล้วดึ๋ยๆบรึ๋ยๆในปาก ตามประสาของยังดิบ



จากซ้ายไปขวา : กุนกันมากิหน้าทูน่าสับ อุนิ(ไข่(?)หอยเม่น) แล้วก็ซูชิหน้าบุริซัง เอ๊ย ปลาบุริ





จากซ้ายไปขวา : บุริซูชิชัดๆอีกที เอบิซูชิ ตามด้วย...อะไรหว่า ทูน่ามั้ง ไม่ได้กินเลยจำไม่ได้







ปลาอะไรก็ไม่รู้....สยองมาก พี่ kuma คว้ามาจากสายพาน ส่วนตัวไม่ชอบของกินที่เห็นลูกกะตา(ขนาดตากุ้งกับตาปูยังไม่อยากเห็นเลย) เพราะงั้นขอผ่าน... Zeph แอบกระซิบพี่ kuma ว่า ถ้าเอาตะเกียบเขี่ยแล้วมันดิ้นได้จะกระโดดหนีออกจากร้านไปเลย ก๊ากๆ





จูโทโร่บนสายพาน และ จูโทโร่ที่กำลังจะถูกกิน





ปลาไหลคำใหญ่ กับกุนกันมากิหน้าสลัดลูกเต๋าแซลม่อนมั้ง



ภาพสุดท้ายของร้านซูชิ

[font color=HotPink size=5]ใครตอบถูกคนแรกจะมีรางวัลให้[/font]



ถามว่า ซูชิสองจานนี้คือซูชิอะไร?


>>> คลิกที่นี่เพื่อภาพใหญ่ๆแบบใกล้ๆ <<<

ขอโทษที่ไม่ได้ถ่ายรูปตอนที่หยิบมาแล้ว เพราะโมจิมัวแต่ยัดซูชิปลาซาบะเข้าปาก พอพี่คุม่าหยิบอันนี้มากินก็เลยถ่ายรูปไม่ทัน





มื้อเย็นแวะกินร้านข้าวหน้าเนื้อแบบหยอดตู้แลกคูปอง จำชื่อร้านไม่ได้แล้ว แต่ได้ข่าวว่าดังและเป็นร้านใหญ่ที่สาขาเยอะพอควร



ข้าวแกงกะหรี่เนื้อ+เนื้อสไลด์ จำราคาไม่ได้ แต่น่าจะประมาณ 650 เยน มีแถมสลัดกับซุปด้วย





ข้าวหน้าเนื้อ(อันนี้จานที่ 2 แล้วนะ กั่กๆ จานแรกสั่งอะไรไม่รู้ ลืมดู)ของพี่คุม่า แล้วก็ซุปที่แถมมา ซุปอร่อยมาก ขอบอก



พี่คุม่ามองลูกค้าคนข้างๆแล้วเห็นเค้ากินแบบที่เราไม่เคยกิน ก็เลยลองทำดูมั่ง.... ด้วยการสั่งข้าวหน้าเนื้อกับไข่ดิบ...





ตีไข่ให้เข้ากันแล้วราดลงไปหลังจากโรยข้าวด้วยเครื่องปรุงแล้ว



พี่ kuma : "อร่อย!!!!"



วันที่ 29 ธ.ค. นัดกับลุง Ryugooh เจ้าพ่ออากิบะ ไกด์มือฉมังท่านนี้ก็พาเราไปกิน Kaisendon ข้าวหน้าอาหารทะเล ที่ใต้สะพานใกล้ๆสถานีรถไฟที่ Akihabara อร่อยมาก แต่เสียดายหิวจัด มัวแต่กินลืมถ่ายรูป (ฮา)



มื้อเย็นไป Ikebukuro แล้วไปแวะกินราเมนในตรอก (ชื่อซอยชื่ออะไรไม่รู้ จำยาก) ในซอยมีแต่ร้านราเมงเต็มไปหมดเลย เลือกแทบไม่ถูก แต่สุดท้ายก็ลงมติไปลองกินราเมงซุปเกลือ Shio ramen ที่ร้านหนึ่ง....ซึ่งใช้ระบบหยอดตู้ซื้อคูปองเช่นเคย



จากซ้ายไปขวา : ออยสต้าชิโอะราเมนของโมจิ Zephกับชิโอะราเมง ชิโอะราเมงเฉยๆ





สุดท้าย 2 ชาม : พี่kumaกับราเมงอะไรก็ไม่รู้ (รอเจ้าตัวมาบอกละกัน) และราเมงอะไรก็ไม่รู้ของลุงริวโกโอ







วันที่ 30 ธ.ค. บ่ายๆหลังจากตะลุยอากิบะ ก็กลับมาแถววัดอาซากุสะ แวะกินร้านของทอดๆ คนแน่นร้าน โต๊ะเต็ม ต้องยืนรอ 5 นาที(โชคดีมีคนออกพอดี)ถึงจะได้โต๊ะ

จากซ้ายไปขวา : อาหารชุดทงคัทสึ(ประมาณ 600 เยน) พี่คุม่าสั่งคัทสึด้งมั้ง และของส่วนกลางมีทามาโกะอะไรก็ไม่รู้(ราคาน่าจะประมาณ 220 เยน เป็นเหมือนไข่ตุ๋นใส่กุ้ยช่ายเยอะๆ หมกมาในซุปออกหวานๆเค็มๆ) และออยสเตอร์ชุบแป้งทอด(ราคา 400 เยน)





มื้อเย็น เนื่องจากคุณแม่ของพี่คุม่าตามมาสมทบแล้ว เลยมีลาภปาก ขึ้นเหลาหรูๆ (อิๆ) ที่จริงพี่คุม่าจะพาไปกินร้านเนื้อย่างที่ใกล้ๆสถานี Suehirocho แถวๆอากิบะ แต่พอถ่อไปถึงแล้วพบว่าร้านมันปิด เลยต้องเปลี่ยนแผนหาร้านอื่นแทน สุดท้ายมาลงเอยที่ร้านนี้ ชื่อ Sakai มั้งโลโก้เป็นรูปพระอาทิตย์ครึ่งดวงฉายแสงสีแดง อร่อยมาก....อร่อยจนลืมถ่ายรูปอาหารคาวเลยอ่ะ T-T (ที่จริงคือมัวแต่ปิ้งๆย่างๆ กลัวเนื้อไหม้คาตะแกรง เลยยุ่งจนลืมถ่ายรูป)



ก็เลยได้มาแต่รูปของหวาน



ก่อนเริ่มปิ้ง... ต้องใส่อันนี้...ผ้ากันเปื้อนแบบพิเศษ....





จากซ้ายไปขวา : ของหวานอร่อย ของหวานอร่อยมาก ของหวานอร่อยที่สุด





ของหวานจานแรก สั่งมั่วๆโดย Zephyr ออกมาเป็นไอศครีมกับผลไม้พวกเบอร์รี่ แถมด้วยเค้กก้อนหน้าตาเหมือนคาสเทล่า

ของหวานจานที่สอง สั่งมั่วๆโดย Moji ออกมาเป็นไอศครีมกับก้อนอะไรไม่รู้ที่กินแล้วเหมือนขนมโมจิ...

ของหวานจากสุดท้าย ที่กินไปกินมาต้องสั่งเบิ้ลอีกรอบ เป็นเหมือนแป้งขนมปังนุ่มๆ ต้องปิ้งเองจนข้างนอกเหลือง ราดน้ำเชื่อม syrup แล้วคลุกผงถั่วบด อร่อยเหาะมาก.... ใครๆกินแล้วต้องมี reaction เหมือนเรื่องเจปัง (ก๊าก) ในเมนูเขียนไว้ว่าเป็นของหวานที่ลูกค้าสั่งมากอันดับ 1 ของร้าน





จิปาถะ

วันไหนสักวันที่เดินข้างนอกกันจนค่ำมืด พี่kuma แวะร้านขายเนื้อแบบมีตู้กระจก แล้วซื้อเนื้อสไลด์มา 4 ขีด ราคาจำไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่าเลือกเนื้อชนิดที่ดูดี(เป็นแผ่นๆดี ไม่เละ ไม่ใช่เศษเนื้อ)แต่ราคาถูก เพราะหวังว่าจะมาทำกินเองที่โรงแรม...

แต่สุดท้ายก็มัวแต่หลงไปกับแสงสีในเมือง จนลืมเนื้อในตู้เย็น...ทิ้งไว้จนวันสุดท้าย กำลังจะโดนไล่ให้ check out แล้ว เกือบไม่ได้กินแน่ะ แต่พี่คุม่าบอกว่าซื้อมาแล้วก็ต้องกิน อีกอย่างเพราะซื้อข้าวแพ็คกล่องมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วด้วย พอรีบๆแพ็คของเสร็จด็เลยหยิบอาวุธมาจัดการ น้องๆสองคนก็เลยอิ่มมื้อเช้าแบบเร่งด่วนไปตามๆกัน ง่ำๆๆ





ร้านขายเนื้อเค้าหั่นมันเนื้อแถมมาในห่อด้วย เลยได้ใช้ใส่ในกระทะแทนน้ำมัน คนค้าขายที่นี่เยี่ยมมาก - - b





ภาพสุดท้าย(ยี้) เนื้อที่ยังแดงๆอยู่....โดนหมีปอบกินเข้าไป พร้อมราดด้วยไข่ดิบ

[/hide]
Miscellaneous

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา