Mecha Story: Voice of Gaia, หนอนแก้ว กับไดโนเสาร์

ตัวแรกนี้รวมข้อมูลมากี่รอบแล้วหว่า? แต่ในที่สุดก็ได้เขียน





α000-0001 ไกอาเกียร์อัลฟา

แมนมาชีนที่สร้างขึ้นมาให้อาฟรานช์ ชาร์ โคลนที่มีความทรงจำของชาร์ อัซนาเบิล ใช้งานในฐานะผู้นำของกลุ่มเมทาตรอน เดิมทีนั้นเมทาตรอนได้วางแผนสร้างไกอาเกียร์เบตาต่อมา แต่ก็ได้ล้มเลิกไป เมื่อเทียบกับMSแล้วแมนมาชีนใช้เทคโนโลยีที่เรียกได้ว่าเป็นคนละระดับกันโดยสิ้นเชิง ในตัวไกอาเกียร์อัลฟาติดตั้งเตาปฏิกรณ์มินอฟสกีขนาดเล็กไว้สี่เตา (รวมกำลังได้ 14460 kW มากกว่าV2ถึงสองเท่า) ค็อกพิตของไกอาเกียร์มีฝาครอบเป็นจอLCDขนาดใหญ่และใช้ระบบไซคอมมิวช่วยในการบังคับทั้งหมด รอบๆค็อกพิตนั้นใช้การแผ่อนุภาคมินอฟสกีช่วยลดแรงกระแทก อุปกรณ์พื้นฐานของไกอาเกียร์ก็คือบีมไรเฟิลที่มีพลังทำลายเทียบได้กับเมกาลันเชอร์ของMSรุ่นเก่า บีมเซเบอร์ที่ใช้เป็นบีมกันได้ บีมกันติดแขน กับพ็อดอาวุธอเนกประสงค์ซึ่งปกติแล้วจะใช้เป็นดัมมีบอลลูนหรือไม่ก็แซนด์บาเรล อาวุธแบบปืนลูกปรายที่ใช้ยิงกระสุนอนุภาคโลหะซึ่งใช้ทำลายมิสไซล์ได้ดีกว่าวัลแคนและถ้ายิงถูกจังหวะก็สามารถป้องกันได้แม้แต่บีม โครงสร้างทั้งตัวของไกอาเกียร์เป็นระบบโมดูล นอกจากค็อกพิตบล็อกแล้วจึงสามารถถอดเปลี่ยนอุปกรณ์ตามการใช้งานได้แบบไม่จำกัด ซึ่งระบบควบคุมอาวุธของไกอาเกียร์นั้นมีประสิทธิภาพมากจนกล่าวได้ว่าสามารถรองรับอาวุธได้มากแบบไม่จำกัดจำนวน ไกอาเกียร์จึงสามารถเปลี่ยนอาวุธได้มากมายทั้งไฮเปอร์เมกาลันเชอร์ มิสไซล์ ไมโครมิสไซล์ เกรเน็ดลันเชอร์ ฟันเนล ไฮเปอร์บาซูกา รวมทั้งอุปกรณ์อย่างECMหรือIฟิลด์ที่มีกำลังมากจนใช้ป้องกันกระสุนได้



ร่างยานของไกอาเกียร์นั้นจะใช้มินอฟสกีบาเรียร์ป้องกันการปะทะของอากาศ ทำให้สามารถบินด้วยความเร็วเหนือเสียงได้ ซึ่งเมื่อบินด้วยความเร็วสูงนั้นจะเกิดปฏิกิริยาแม่เหล็กไฟฟ้าทำให้เห็นเหมือนเป็นวิหคแสง ปกติแล้วไกอาเกียร์จะมีกำลังพอขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศระดับสูงได้ ในกรณีที่ต้องบินเป็นระยะทางไกลๆก็จะติดตั้งมอเตอร์บอร์ดไว้ซึ่งทำให้สามารถออกนอกชั้นบรรยากาศได้ด้วยกำลังของตนเอง



กลับไปหาสิงสาราสัตว์ ตัวแรกนี่ผมชอบแบบไร้เหตุผล (น่ารักมั้ง?)





EZ-006 มอลกา

ซอยด์สายพันธุ์หนอนแก้วที่พัฒนาโดยจักรวรรดิเซเนบัส และเป็นหนึ่งในซอยด์รุ่นแรกๆที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่ได้มาจากชาวโลกซึ่งโดยสารมากับยานกลอบอลลีทรีที่ตกลงบนดาวZi มอลกานั้นมีข้อดีที่ผลิตได้ง่าย และเมื่อเทียบกับซอยด์ขนาดเล็กด้วยกันแล้ว มอลกามีเกราะส่วนหัวที่แข็งแกร่งมาก ในการสู้รบทั่วไปนั้นจึงสามารถพุ่งเข้าปะทะกับศัตรูแบบตรงๆได้โดยที่นักบินยังปลอดภัย จึงเป็นที่นิยมของพลทหารไปด้วย มอลกามีอาวุธเป็นเลเซอร์คัตเตอร์กับปืนแก็ตลิง20ม.ม.สี่กระบอกที่ส่วนหัว ในตัวของมอลกานั้นเป็นคอนเทนเนอร์ที่เปิดได้ซึ่งปกติแล้วจะติดมิสไซล์ต่อต้านอากาศยานไว้ แม้ว่าความคล่องแคล่วของมอลกาจะค่อนข้างต่ำ แต่ก็ทดแทนได้ด้วยความสามารถในการใช้เลเซอร์คัตเตอร์เจาะดำดิน



เนื่องจากเป็นซอยด์ที่สร้างได้ง่ายและใช้งานได้หลากหลายโดยการติดอาวุธเสริมอย่างปืนต่อต้านอากาศยานไว้ด้านหลัง หรือแม้แต่ถอดส่วนหางออกแล้วเปลี่ยนเป็นคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่กว่าเดิมกับเครนเพื่อใช้ลำเลียงสัมภาระ มอลกาจึงเป็นซอยด์ที่แพร่หลายที่สุดสายพันธุ์หนึ่งบนดาวZi หลังจากที่จักรวรรดิเซเนบัสถูกไกลอสยึดครองแล้วก็ยังคงใช้งานมอลกาในกองทัพอยู่ ในภาคเจเนซิสนั้น มอลกาเป็นซอยด์ที่กลุ่มต่อต้านดิกัลด์ มุเทคิดัน ใช้งาน ซึ่งเป็นรุ่นคาโนรีที่ติดปืนใหญ่ 120 ม.ม.ไว้ด้านหลัง





RZ-014 โกดอส

(ก็คิดๆอยู่ว่าลูกกระจ๊อกสหพันธ์ในAGEมันหน้าคุ้นๆ...)



ซอยด์สายพันธุ์อัลโลซอรัสที่สาธารณรัฐเฮลิคพัฒนาโดยการปรับปรุงRMZ-01 การิอุสด้วยเทคโนโลยีของมนุษย์โลกซึ่งโดยสารมากับยานกลอบอลลีทรีที่ตกลงบนดาวZi โกดอสนั้นมีความทนทานและพลังทำลายที่สูงกว่าการิอุสมาก และเป็นซอยด์ที่ได้รับการออกแบบโดยเน้นการต่อสู้ในระยะประชิด รูปร่างแบบยืนสองขานั้นทำให้เมื่อสู้กับซอยด์ที่มีขนาดพอๆกันแล้วจะสามารถเตะได้ถนัดและรุนแรง อาวุธของโกดอสนอกจากเล็บกับหางแล้วก็มีบีมกันขนาดเล็กข้างลำตัวสองกระบอก ที่หลังกับโคนหางมีปืนต่อต้านอากาศยานติดไว้ โกดอสนั้นสามารถผลิตได้ง่ายจึงเป็นกำลังหลักของสาธารณรัฐเฮลิคในการต่อสู้กับเซเนบัสในช่วงแรก และยังมีรุ่นปรับแต่งอย่างเสริมเกราะป้องกันให้ค็อกพิตหรือติดปืนใหญ่ออกมา แต่ในที่สุดก็ได้ยุติการผลิตไปมื่อเฮลิคพัฒนา RZ-067 อัลโลซอเรอร์ขึ้นมา จนกระทั่งหลังหายนะครั้งใหญ่ของดาวZi โกดอสจึงได้รับการผลิตใหม่อีกครั้ง โดยได้รับการปรับแต่งอาวุธให้มีอานุภาพขึ้นด้วย โดยปืนต่อต้านอากาศยานนั้นเปลี่ยนเป็นแบบปืนกลเลเซอร์





RZ-037 อุลตราซอรัส

ซอยด์สายพันธุ์อุลตราซอรัสที่พัฒนาโดยสาธารณรัฐเฮลิคในช่วงสงครามกับจักรวรรดิเซเนบัสครั้งแรก อุลตราซอรัสนั้นเป็นซอยด์ขนาดมหึมารุ่นแรก โดยปรับปรุงมาจาก RBOZ-3 บิกาซอโร อุลตราซอรัสนั้นได้รับการออกแบบให้ใช้งานเหมือนยานแม่ของผู้บัญชาการ มีโรงเก็บที่ใช้บรรทุกซอยด์ขนาดเล็กหรือยานสอดแนมในตัวได้ อุลตราซอรัสนั้นมีเกราะหนามากจนทนการโจมตีของไอออนคองได้ อุลตราซอรัสมีอาวุธหลักคือลิเนียกัน 360 ม.ม. สี่กระบอก เสริมด้วยบีมกันและมิสไซล์อีกมากมาย ซึ่งการระดมยิงอาวุธของอุลตราซอรัสนั้นจะทำให้พื้นที่เป้าหมายกลายเป็นหลุมแอ่งขนาดใหญ่เลยทีเดียว จุดอ่อนของอุลตราซอรัสก็คือสามารถเดินบนบกได้ช้ามาก แต่เมื่อใช้งานในน้ำจะใช้เครื่องยนต์ไฮโดรเจ็ตจึงเร็วกว่ามาก



ด้วยพลังของอุลตราซอรัสทำให้สงครามที่ดำเนินมาถึงสิบปียุติลงด้วยชัยชนะของเฮลิค จนกระทั่งสงครามครั้งที่สองซึ่งจักรวรรดิเซเนบัสพัฒนาเดธซอเรอร์ออกมา ปรากฏว่าเดธซอเรอร์นั้นทนการโจมตีของอุลตราซอรัสได้แบบสบายๆ ขณะที่ปืนใหญ่อนุภาคของเดธซอเรอร์นั้นทำลายอุลตราซอรัสได้ในครั้งเดียว เดธซอเรอร์ทำให้เซเนบัสสามารถบุกตีเมืองหลวงของเฮลิคแตกได้ แต่อุลตราซอรัสก็ยังมีบทบาทสำคัญเป็นแนวป้องกันทางทะเลของหมู่เกาะที่กองกำลังเฮลิคใช้เป็นที่มั่นใหม่ ส่วนพวกที่ยังเหลืออยู่ตามหุบเขาในทวีปกลางนั้นต้องหันมาใช้ยุทธวิธีแบบกองโจร ปกติแล้วจึงแยกส่วนอุลตราซอรัสไว้ให้ขนย้ายได้ง่ายขึ้น ก่อนนำไปประกอบเพื่อใช้โจมตีฐานของเซเนบัส เมื่อเฮลิคส่งแมดธันเดอร์ลงสู่สนามรบและเริ่มตีโต้เซเนบัสได้ อุลตราซอรัสก็ยังคงรับหน้าที่ยานบัญชาการเหมือนเดิม



หลังหายนะครั้งใหญ่ของดาวZi ก็ปรากฏว่ามีอุลตราซอรัสรอดมาได้เพียงตัวเดียวซึ่งเป็นเครื่องประจำตัวของประธานาธิบดีของเฮลิค พันเอกร็อบ เฮอแมนได้เอามาใช้โดยติดปืนใหญ่ อุลตราแคนน่อน 1200 ม.ม.ไว้เป็นอาวุธใหม่ และต่อมาจึงได้ดัดแปลงเป็นยานขนส่งข้ามทวีป ส่วนในภาคอนิเมนั้น ร็อบได้ติดตั้งกราวิตีแคนน่อนเพื่อช่วยเหลือกาเดียนฟอร์ซในการต่อสู้กับเดธสติงเกอร์ อุลตราซอรัสตายไปในการต่อสู้กับเดธซอเรอร์ที่คืนชีพสมบูรณ์ด้วยซอยด์คอร์ของเดธสติงเกอร์ หลังจากที่ใช้เบลดไลเกอร์ของบันแทนกระสุนของกราวิตีแคนน่อนยิงใส่เดธซอเรอร์





BZ-002 ไบโอไทรันโน

ไบโอซอยด์สายพันธุ์ไทรันโนซอรัส ไบโอไทรันโนเป็นไบโอซอยด์ของจินน์และเป็นไบโอซอยด์ที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิดิกัลด์ รูปแบบของไบโอไทรันโนนั้นจะคล้ายกับไบโอวอลเคโน แต่นอกจากความเร็วแล้วก็นับว่าเหนือกว่าในเกือบทุกด้าน ไบโออาเมอร์ของไบโอไทรันโนเป็นดาร์คเนสเฮลอาเมอร์ซึ่งป้องกันได้แม้แต่อาวุธโลหะZi ปืนใหญ่อนุภาคไบโอที่ยิงจากปากของไบโอไทรันโนนั้นมีอานุภาพจนทำให้แรงโน้มถ่วงยุบตัวก่อนระเบิดออกมา เกราะซี่โครงของไบโอไทรันโนนั้นจริงๆแล้วเป็นกงเล็บติดไว้กับแขนกล ซึ่งมีไว้ป้องกันตัวจากศัตรูที่อาศัยความเชื่องช้าของไบโอไทรันโนโจมตีจากด้านข้างและมีกำลังพอที่จะจับโซลไทเกอร์กับไบโอวอลเคโนพร้อมกันได้ แต่สุดท้ายไบโอไทรันโนก็ถูกมุเก็นไลเกอร์ทำลาย



(Battle Storyนี้จริงๆแล้วก็คือเนื้อเรื่องที่แนบมาในโมเดลแต่ละตัวนั่นล่ะครับ แบ่งได้เป็นสองยุคใหญ่ๆ โดยมีหายนะครั้งใหญ่ของดาวZiเป็นตัวแบ่ง



ถ้าเทียบกับอนิเม อนิเมภาคแรกก็จะตรงกับ Battle Story ยุคหลัง ตัวละครหลายๆตัวก็ถูกยืมมา แต่เนื้อเรื่องจะต่างกันพอสมควร ส่วนภาคสแลชซีโรกับฟิวเซอร์ ยืมมาแต่ซอยด์ ถ้าเทียบเวลากันก็คงเป็นสงบสุขหลัง Battle Storyจบไปแล้ว ส่วน เจเนซิส นับว่าเป็นออริจินัล มีของเก่าโผล่มาบ้าง



สงครามครั้งแรกนั้นถ้าจะว่ากันแล้วก็ต้องย้อนไปถึงตอนที่เฮลิค มูโรอาตั้งตนเป็นใหญ่ ตั้งสาธารณะรัฐเฮลิคขึ้นมาท่ามกลางชนเผ่าต่างๆในทวีปกลาง แต่เมื่อเฮลิคเสียชีวิตก็ได้ตั้งบุตรชาย เฮลิคที่สอง ให้เป็นผู้นำของสาธารณรัฐแทน ส่วนเซเนบัส มูโรอา ลูกอีกคนที่เกิดจากน้องสาวของไกลอส พี่เขยที่เคยทรยศเฮลิคและถูกเนรเทศไปจากทวีปกลางนั้นให้เป็นแม่ทัพคุมกองทหาร หลังเฮลิคตายแล้ว เซเนบัสจะออกลายหรืออยากแสดงฝีมือในฐานะแม่ทัพก็แล้วแต่ ก็คอยเสนอให้ใช้กำลังปราบปรามเผ่าอื่นๆที่เหลือแล้วปกครองทวีปกลางทั้งหมด ยิ่งนานวันความขัดแย้งระหว่างเซเนบัสกับเฮลิคที่สองและสภาก็ยิ่งรุนแรงขึ้น จนในที่สุดก็วางแผนยึดอำนาจ แต่เฮลิคที่สองรู้เรื่องก่อน จัดการปลดและเนรเทศเซเนบัสไป ปรากฏว่าเซเนบัสไปตั้งตัวเป็นใหญ่ได้ในพื้นที่ชนเผ่าของไกลอส ไม่นานนักก็ปราบดาขึ้นมาเป็นจักรวรรดิเซเนบัส มหาอำนาจที่สองคู่กับเฮลิค แต่ทั้งสองฝ่ายมีกำลังทหารพอๆกัน จึงไม่มีสงครามอะไรมากกว่าความขัดแย้งเล็กน้อยตามแนวชายแดน



เรื่องมาเปลี่ยนไปตอนที่ กลอบอลลีทรี ยานสำรวจจากดาวโลกตกลงมาบนดาวZi พวกที่โดยสารมากับกลอบัลลีทรีกระจัดกระจายกันไปพร้อมกับเอาความรู้ด้านเทคโนโลยีไปให้ทั้งสองฝ่าย ซอยด์ที่พัฒนาในช่วงนี้นั้นแข็งแกร่งกว่าซอยด์ยุคแรกมาก เซเนบัสคิดว่าตนได้เปรียบเฮลิคแล้วก็เปิดสงครามเต็มรูปแบบ สงครามครั้งแรกนี้ดำเนินไปกว่าสิบปี ระหว่างนั้นมีเหตุการณ์สำคัญปานกลางคือการก่อกบฏในจักวรรดิเซเนบัสของนายพลกัมบิโน เซเนบัสปราบปรามกัมบิโนได้ กัมบิโนเผยเจตจำนงค์ของการกบฏว่าเป็นเพราะสงครามคราวนี้ทำให้ประชาชนของจักรวรรดิเดือดร้อนมากเกินไปแล้ว ก่อนจะฆ่าตัวตายรับโทษแทนผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมด เซเนบัสรู้ตัวว่าเสียคนดีไปแล้ว ถึงจะไม่เลิกสงคราม แต่ก็รับชูโทรเมอร์ ลูกชายของกัมบิโนมาอุปการะ สงครามดำเนินต่อไปจนเฮลิคส่งอุตราซอรัสลงสู่สนามรบและตีเมืองหลวงของเซเนบัสแตก แต่เซเนบัสพาครอบครัวหนีออกทะเลไปได้ รอเวลากลับมาทวงแผ่นดินคืนอีกครั้ง)
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา