Mecha Story : Update (Turn A)

แหม จำได้ว่าเห็นใครว่าลุงหนวดเมื่อไม่นานมานี้ พอดีเพิ่งได้ข้อมูลชุดใหญ่มาเลยเอามาลงซะเลย







FLAT-L0D6 แฟลท

เดิมทีเป็นMSที่ใช้ปราบจราจล ชื่อFLATย่อมาจาก Flexible Ladder Actuator Technology-based เป็นMSของชาวจันทราที่มีความสามารถเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกได้ด้วยตัวเอง แฟลทเครื่องหนึ่งเป็นเครื่องที่พวกโลรันใช้ลงมาบนโลกในปีCC 2343 ซึ่งเครื่องนี้ภายหลังคีธขายให้พวกมิลิเทียร์เอาไปทาสีแดง และโจเซฟ ยอห์ทก็ใช้แฟลทเครื่องนี้เป็นMSประจำตัว

อาวุธของแฟลทประกอบด้วยบีมไรเฟิลแบบพับเป็นกล่องได้แล้วก็มิสไซล์ลันเชอร์แบบกล่อง นอกจากนี้แฟลทยังสามารถสร้างคลื่นความถี่สูงได้ ซึ่งคลื่นนี้สามารถใช้ป้องกันตัวเบี่ยงทิศทางของอาวุธยิงได้ และยังสามารถใช้โจมตีได้ด้วย แฟลทยังสามารถใช้ถ่ายภาพด้านหลังและฉายออกมาด้านหน้าเพื่อพรางตัวได้





SYSTEM turn A-99(WD-M01) เทิร์นเอกันดั้ม

กันดั้มจากภาคเทิร์นเอ นับเป็นดีไซน์ที่ฮือฮามากๆ หลายๆคนถึงกับรับไม่ได้ ตัวอักษรเทิร์นเอเป็นสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์หมายถึง"รวมทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่าง"

ในอดีตของประวัติศาสตร์มืดนั้น เทิร์นเอกันดั้มเป็นMSที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อใช้ต่อสู้กับศัตรูจากนอกระบบสุริยะจักรวาล เครื่องกำเนิดพลังงานของเทิร์นเอเป็นแบบ Discontinuous Hyperoscillation Gauge Collapsing Pile (DHGCP เท่าที่ค้นดูก็คือ แบล็คโฮลเอ็นจิน) ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยIฟิลด์บีมไดรฟ์ ซึ่งทำให้ใต้เกราะของเทิร์นเอก็คือพื้นที่กลวงๆและโครงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้เทิร์นเอมีน้ำหนักเบามากและเมื่อเดินเครื่องจะทำให้น้ำหนักลดลงไปอีก(ไอเดียนี้ถูกนำไปใช้ในภายหลังเป็นGNไดรฟ์) จึงสามารถติดอุปกรณ์ต่างๆเสริมเข้าไปได้โดยไม่เสียความคล่องแคล่วไป Iฟิลด์บาเรียร์ของเทิร์นเอมีกำลังพอที่จะใช้ต้านแรงกระแทกของระเบิดนิวเคลียร์หรือเบี่ยงวิถีของบาซูก้าได้ เทิร์นเอยังมีมีนาโนเทคโนโลยีทำให้เทิร์นเอสามารถซ่อมแซมความเสียหายได้เอง เทิร์นเอกันดั้มสามารถคืนสภาพจากการถูกทำลายได้ถ้าเหลือชิ้นส่วนสำคัญไว้แต่ต้องใช้เวลานับพันปี ซึ่งพลังฟื้นสภาพของเทิร์นเอกันดั้มนี้สามารถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของนักบินซึ่งควบคุมจากคอร์ไฟเตอร์ที่บริเวณหัวเข็มขัดได้ด้วย เทิร์นเอยังมีความสามารถในการเทเลพอร์ตได้

อาวุธเท่าที่ปรากฏของเทิร์นเอก็คือบีมเซเบอร์, บีมไรเฟิลที่มีอานุภาพมากกว่าปกติและเทิร์นเอยังสามารถเทเลพอร์ตบีมที่ยิงออกไปเพื่อโจมตีจากรอบทิศทางได้แบบฟันเนล นอกนั้นก็มีไฮเปอร์แฮมเมอร์ที่เทิร์นเอสามารถสร้างIฟิลด์หุ้มไว้เพื่อเพิ่มมวลให้มีอานุภาพมากกว่าปกติ และมีช่องอเนกประสงค์ที่หน้าอกที่สามารถติดตั้งอาวุธได้หลากชนิด ซึ่งในเรื่องมักจะมีมิสไซล์เก็บไว้ แต่โลรันเคยใช้เก็บระเบิดนิวเคลียร์ไว้ นอกจากนี้ตอนที่กินกานัมเอาเทิร์นเอไปก็ได้ติดบีมแคนน่อนแบบสาดกระจายไว้ในช่องนี้ด้วย จริงๆแล้วในช่วงประวัติศาสตร์มืด เทิร์นเอกันดั้มมียูนิตสนับสนุนขนาดใหญ่ DOC(Device Operation Control)เบสซึ่งใช้เก็บอุปกรณ์ต่างๆของเทิร์นเอเพื่อให้สามารถปฏิบัติการได้ทุกรูปแบบ ซึ่งข้อมูลบางแหล่งอ้างว่าเทิร์นเอสามารถเทเลพอร์ตอาวุธที่อยู่ในDOCเบสไปไว้ในช่องอเนกประสงค์ได้ (พูดง่ายๆคือจะเติมมิสไซล์หรือเปลี่ยนเป็นติดปืนกลกลางสนามรบก็ได้) แต่อาวุธที่น่ากลัวที่สุดก็คือ "ผีเสื้อแสงจันทร์"ซึ่งเป็นการปล่อยนาโนแมชชีนออกมาทำลายเป้าหมายเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งครั้งหนึ่งเทิร์นเอเคยใช้มันทำลายอารยธรรมบนโลกไปจนหมดสิ้น

เทิร์นเอกันดั้มหลับไหลอยู่ในรูปปั้นที่เรียกว่าตุ๊กตาสีขาว(ไวท์ดอล) ซึ่งทำงานด้วยระบบอัตโนมัติเมื่อชาวจันทราเริ่มการโจมตีโลกด้วยMSและยิงแขนวอโดมขาดกระจุยด้วยบีมไรเฟิล ก่อนหยุดทำงานและได้โลรัน เซอัคขึ้นควบคุม จริงๆแล้วเทิร์นเอเครื่องนี้เป็นเพียงรุ่นสาธิตการทำงานในอดีตซึ่งมีอุปกรณ์ต่างจากรุ่นใช้งานจริง (ในยุคประวัติศาสตร์มืดมีเทิร์นเอรุ่นผลิตจำนวนมากที่ใช้ตาแบบจิมด้วย และยังมีเทิร์นเอรุ่นติดอุปกรร์ครบซึ่งยังไม่มีข้อมูล) ในภายหลังโลรันได้ไปเจอDOCเบสที่หมดสภาพเพราะผีเสื้อแสงจันทร์ถูกฝังอยู่ใต้ดินและเหลือเพียงไฮเปอร์แฮมเมอร์ที่ยังใช้งานได้ เทิร์นเอกันดั้มเครื่องนี้ยังดูเหมือนมีชีวิตจิตใจของตัวเองด้วย





GM1F (XM-7054) แบนดิต

MSเก่าที่โดนขุดขึ้นมาของกิงกานัม โค้ดเก่าXMเป็นโค้ดของครอสโบนฯ แต่ดูเหมือนไม่มีความเกี่ยวพันกัน ในครั้งประวัติศาสตร์มืด แบนดิตเป็นMSตำรวจซึ่งด้านหลังสามารถติดตั้งอาวุธสำหรับจับกุมMSของอาชญากรได้

หนึ่งในแบนดิตที่ขุดขึ้นมาเป็นของแมรี่เบลล์ แกดเจด มีอาวุธติดตัวเป็นบีมเซเบอร์กับมิสไซล์ลันเชอร์แบบสามลำกล้อง แต่สามารถติดมิสไซล์ลันเชอร์แบบพิเศษติดหลังได้ ซึ่งมิสไซล์ลันเชอร์เสริมตัวนี้มีมิสไซล์สารพัดแบบ มีทั้งแบบธรรมดา, ควบคุมผ่านสายเคเบิล, เชฟเวอร์มิสไซล์ที่มีคมสำหรับใช้เชือดศัตรูหรือแม้แต่มิสไซล์ที่สามารถแตกตัวเป็นมิสไซล์ลูกเล็กๆได้

ตอนที่มาโลก พวกกิงกานัมได้เสริมบูสเตอร์สำหรับให้แบนดิตบินได้ด้วย นอกจากนี้แบนดิตบางเครื่องยังใช้ระบบMDเพื่อปฏิบัติการโดยไม่มีนักบินได้





CONCEPT-X 6-1-2 เทิร์นX

MSลี้ลับอีกตัวในเทิร์นเอ กินกานัมบอกว่าMSทั้งสองตัวเป็นพี่น้องกัน ชื่อของเทิร์นXหมายถึง "ผู้แปรพักต์จากดาวเคราะดวงที่สิบ (Turned from planet X)"และอาจเป็นMSที่สร้างโดยชาวโคโลนีที่เดินทางไปนอกระบบสุริยะในครั้งประวัติศาสตร์มืด รอยรูปกากบาทบนหน้าอกของเทิร์นXนั้นจริงๆแล้วเป็นรอยแผลที่ไม่สามารถซ่อมได้ด้วยเทคโนโลยีของชาวจันทรา (ถูกบีมเซเบอร์ของเทิร์นเอ?)

จุดเด่นของเทิร์นXก็คือ ร่างกายของเทิร์นXนั้นสามารถแยกเป็นส่วนๆและแยกไปโจมตีได้อย่างอิสระเหมือนกับบิต กล่าวได้ว่าเทิร์นXก็คือกลุ่มของอาวุธไซคอมมิวที่มารวมกันเป็นMSนั่นเอง ซึ่งนอกจากจะใช้การแยกร่างไปล้อมยิงโจมตีเป้าหมายจากรอบทิศทางแล้ว (ท่านี้มีชื่อว่า"บลัดดี้ซีจ") ในสภาพของบิตนี้ เทิร์นXยังสามารถพุ่งเข้าเกาะและดูดพลังงานมาจากMSเป้าหมายได้ ซึ่งแม้แต่ชีวิตของนักบินก็จะถูกเทิร์นXดูดไปได้ด้วย

อาวุธอื่นๆของเทิร์นXก็คือบีมไรเฟิล,บาซูก้าและมานิพิวเลเตอร์อำนาจทำลายสูงที่ติดอยู่ที่มือขวา ซึ่งมานิพิวเลเตอร์นี้สามารถปล่อยบีมที่มีอานุภาพสูงออกมาโจมตีได้ ซึ่งกินกานัมเรียกท่าที่ใช้กำลังสูงสุดของมานิพิวเลเตอร์ว่า"ไชน์นิ่งฟิงเกอร์" เทิร์นXมีนาโนมาชีนเหมือนเทิร์นเอและเมื่อก็อปปี้ข้อมูลจากเทิร์นเอแล้วก็สามารถใช้ผีเสื้อแสงจันทร์ได้ด้วย แท้จริงแล้วเทิร์นXถูกสร้างเพื่อให้นิวไทป์ใช้งานและกิงกานัมก็ไม่สามารถดึงพลังของเทิร์นXออกมาได้ทั้งหมด ข้อมูลบางแหล่งระบุว่าร่างที่เห็นของเทิร์นXนี้เกิดจากวิวัฒนาการหลังความเสียหายในการต่อสู้กับเทิร์นเอในอดีต

ข้อมูลบางแหล่งระบุว่า ซีด มี้ดออกแบบเทิร์นXในเวลาครึ่งชั่วโมงหลังจากได้ไอเดียระหว่างดูดอกซากุระที่โรงแรมและคิดว่าเป็นดีไซน์ที่ดีที่สุดที่ทำในเรื่องนี้ ขณะที่ทีมอนิเมเตอร์คิดว่าเป็นMSที่วาดยากสุดๆ ในช่วงวางโครงเรื่องตอนแรกจะให้ถูกนาโนมาชีนคลุมไว้โผล่มาแต่หัวจนถึงตอนใกล้จบด้วยซ้ำ ในดีไซน์เดิมของซีด เกราะของเทิร์นXเป็นสีขาว แต่โทมิโน่อยากได้สีเขียวแบบซาคุ ก่อนจะมาลงตัวที่สีเขียวจางๆแบบที่เห็น
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา