Mecha Story: RGนัคเคิล!

รอบนี้ตัวหลักๆก็เกือบครบล่ะ





KUMA-03 แบร์ไกซัง

คัสตอมกันพลาที่โคซากะ จินาดัดแปลงมาจากแบร์ไกอีกที ชื่อแบร์ไกซังเป็นการเล่นคำกับเลขIIIในชื่อ (ไม่ปรากฏว่ามีแบร์ไกทูว์แต่อย่างใด) แม้จะเป็นมือใหม่ด้านกันพลา แต่จินานั้นเป็นสมาชิกชมรมศิลปะและวาดภาพสีน้ำเก่งอยู่แล้วจึงลงสีได้ดีมาก ส่วนหน้าของแบร์ไกซังนั้นไม่มีโมโนอายหรือปืนอนุภาคอีก แต่เป็นจอLCDซึ่งทำให้แบร์ไกซังสามารถแสดงสีหน้าได้หลากหลาย อาวุธของแบร์ไกซังนั้นประกอบด้วยปืนอนุภาคในปากที่หุบอ้าได้ และที่มือทั้งสองข้างซึ่งสามารถใช้เป็นบีมเซเบอร์ได้ ด้านหลังของแบร์ไกซังนั้นมีจุดเชื่อมต่อกับสไตรเกอร์แพ็ค ซึ่งจินาได้ใช้ริบบอนสไตรเกอร์ ซึ่งเป็นปีกท่อขับดันที่แต่งให้เหมือนโบว์ริบบิ้น เนื่องจากจินาไม่ใช่แฟนกันดั้ม จึงจินตนาการแบบเด็กผู้หญิงทั่วๆไปว่าแบร์ไกซังนั้นเป็นตุ๊กตาหมีที่กลายเป็นหุ่นยนต์และได้ยัดนุ่นเข้าไปในตัวด้วย ซึ่งนุ่นนี้สามารถช่วยรับแรงกระแทกได้มาก และถ้าพ่นออกมาจากตัวผ่านปืนที่ปากก็จะใช้หยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูได้





RX-178B บิลด์กันดั้มมาร์คทูว์

กันพลาที่อิโอริ เซย์ประกอบขึ้นเป็นกันพลาสำรองของบิลด์สไตรค์กันดั้มและใช้งานเป็นครั้งแรกหลังจากที่บิลด์สไตรค์ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการต่อสู้กับซาคุอเมซิง โดยเซย์ได้จินตนาการว่าเป็นกันดั้มมาร์คทูว์ที่เพิ่มมาจากในภาคอนิเมและถูกเอวโกเอาไปดัดแปลง สาเหตุที่เซย์เลือกใช้กันดั้มมาร์คทูว์นั้นมาจากความสามารถในการประกอบกับGดีเฟนเซอร์ซึ่งเซย์เห็นว่าคล้ายกับสไตรเกอร์แพ็คของสไตรค์กันดั้มจึงสามารถดัดแปลงไอเดียที่คิดไว้แล้วมาประยุกต์ได้ เสาอากาศVฟินของบิลด์มาร์คทูว์นั้นจะมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นปกติซึ่งแสดงถึงระบบเซนเซอร์ที่มีประสิทธิภาพขึ้น จุดเด่นของบิลด์มาร์คทูว์ก็คือแบ็คแพ็ค บิลด์บูสเตอร์มาร์คทูว์ ซึ่งเซย์พัฒนามาจากบิลด์บูสเตอร์ของบิลด์สไตรค์โดยผสมลักษณะของแกปแลนกับGดีเฟนเซอร์เข้าด้วยกัน บิลด์บูสเตอร์มาร์คทูว์นี้มีอาวุธเป็นบิลด์ไรเฟิลมาร์คทูว์สองกระบอกที่ติดไว้กับมูฟเอเบิลชิลด์ไบน์เดอร์ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนแกนของบิลด์บูสเตอร์ด้วยแขนกลให้ขยับได้มาก ซึ่งเวลาใช้งานนั้นสามารถประกอบกับล็อกที่แขนเพื่อเล็งหรือจะดึงออกมาใช้แบบมือถือก็ได้ โดยขณะที่เชื่อมต่อกับบูสเตอร์นั้จะมีอานุภาพสูงกว่า บิลด์บูสเตอร์มาร์คทูว์ยังคงความสามารถในการแยกเป็นยานออกมาได้เหมือนบิลด์บูสเตอร์ และบิลด์กันดั้มมาร์คทูว์ก็ยังคงใช้อาวุธเดิมของกันดั้มมาร์คทูว์ได้





AC-01 มิสซาซาบี

คัสตอมกันพลาที่ไอลา ยูคิไอเนนแต่งจากซาซาบีหลังออกจากทีมเนเมซิสแล้ว โดยมีโคซากะ จินาเป็นผู้ช่วย ถึงจะเป็นคัสตอมกันพลาที่แต่งเองตัวแรก แต่เนื่องจากไอลาเรียนพื้นฐานการประกอบกันพลามาจากอิโอริ ทาเคชิแล้ว และด้วยประสพการในฐานะไฟเตอร์ของเนเมซิส ทำให้ออกมาเป็นกันพลาที่ดีมากทีเดียว โดยไอลานั้นได้ปรับรูปร่างของซาซาบีให้เพรียวแบบผู้หญิงจึงมีน้ำหนักเบาลง แต่ยังคงมีกำลังขับเคลื่อนที่สูงเหมือนเดิมโดยย้ายตำแหน่งของท่อขับดันตามตัวทำให้สมรรถนะสูงขึ้นมาก มิสซาซาบีนั้นยังคงมีบีมเซเบอร์กับปืนมหาอนุภาคที่ท้อง ฟันเนลนั้นถูกย้ายไปเก็บไว้ในเกราะกระโปรงด้านหลังแบบคิวเบเลย์ ส่วนเกราะกระโปรงด้านหน้าถูกถอดออกมาดัดแปลงเป็นโล่ "สวีทชิลด์" และใช้เก็บบีมเซเบอร์แบบสองปลาย บีมโทมาฮอว์คก็ได้รับการดัดแปลงเป็น "สวีทซอร์ด" ที่สามารถพลิกด้ามจับให้ยิงเป็นบีมกันได้ รวมทั้งเพิ่มบีมเซเบอร์ไว้ที่ปลายเท้าทั้งสองข้าง





XM-X9999 ครอสโบนกันดั้มมาโอ

กันพลาครอสโบนกันดั้มX1ที่ยาซากะ มาโอะดัดแปลงหลังจากที่กันดั้มXมาโอพังไปในการต่อสู้กับกันดั้มF91อิมเมจินของจูเลียน แม็กเคนซี โดยมาโอะนั้นได้ติดแผงแปลงพลังงานคล้ายกับของกันดั้มXมาโอไว้ตามตัว ซึ่งทำให้มีครอสโบนกันดั้มมาโอกำลังมากกว่ากันดั้มXมาโอแม้จะมีขนาดเล็กกว่า ระบบคอร์บล็อกกับท่อขับดันรูปกากบาทด้านหลังนั้นก็ถูกเอาออกไปโดยมาโอะได้เปลี่ยนเป็นแผงแปลงพลังงานกับแซทเทอไลท์แคนน่อนแทน โดยเมื่อยิงแซทเทอไลท์แคนน่อนนั้นส่วนหน้าอกที่เป็นหัวกะโหลกขนาดใหญ่จะอ้าปากออก กันดั้มXมาโอยังมีอาวุธเดิมของครอสโบนกันดั้มยกเว้นแต่แบรนด์มาร์คเกอร์ มาโอะยังได้เอาท่อขับดันเดิมของครอสโบนกันดั้มไปแปลงเป็นอาวุธ ครอสโบนกัน&ซอร์ด ซึ่งส่วนปลายนั้นสามารถยิงออกไปเป็นบีมกันหรือสร้างบีมเบลดได้ และด้านข้างนั้นก็สามารถเร่งความร้อนเป็นดาบความร้อนได้





PPMS-18E เคมพ์เฟอร์อเมซิง

กันพลาเคมพ์เฟอร์ที่แต่งเป็นพิเศษโดยบริษัทPPSE เพื่อให้ทัตสึยะ ยูกิ ซึ่งเป็นเมย์จิน คาวางุจิ รุ่นที่สามใช้งานในการแข่งกันพลาโลกครั้งที่7 เคมพ์เฟอร์อเมซิงนั้นใช้เทคโนโลยีล่าสุดของPPSEเพื่อให้มีสมรรถนะสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นข้อต่อไฮโพลีแคปหรือสีรีโมชันเพนท์ รวมทั้งมีเอเนอจีแพ็คติดไว้ตามแขนขา ซึ่งทำให้สามารถใช้งานในน้ำได้โดยที่สมรรถนะของเคมพ์เฟอร์อเมซิงจะไม่ลดลงเลย รวมทั้งมีพลังป้องกันที่สูงมากเมื่อเทียบกับเครื่องดั้งเดิม ด้านหลังของเคมพ์เฟอร์อเมซิงนั้นเป็นอเมซิงเวพอนไบน์เดอร์สำหรับเก็บอาวุธและเป็นถังเชื้อเพลิงในตัว ซึ่งก็สามารถถอดทิ้งไปได้เมื่อไม่ต้องใช้งานแล้ว เคมพ์เฟอร์อเมซิงยังสามารถติดอเมซิงเวพอนไบน์เดอร์เพิ่มไว้ที่ขาทั้งสองข้างได้ อาวุธหลักของเคมพ์เฟอร์อเมซิงประกอบด้วยมีดอเมซิงไนฟ์ บีมเซเบอร์ และปืนพกอเมซิงพิสทอล ซึ่งปืนพกนั้นยิงได้ต่อเนื่องจึงเหมาะกับการต่อสู้ในระยะใกล้ และสามารถต่อส่วนลำกล้องเป็นอเมซิงไรเฟิลหรืออเมซิงลองไรเฟิลได้ซึ่งทำให้มีพลังทำลายและระยะหวังผลสูงขึ้นแม้อัตราการยิงจะลดลง จึงเป็นอาวุธที่ใช้งานได้หลากหลายมาก นอกจากนี้ยังสามารถเก็บอาวุธหนักอย่างมิสไซล์ลันเชอร์หรือปืนกลแก็ตลิงไว้ในอเมซิงเวพอนไบน์เดอร์ได้





GAT-X105B บิลด์สไตรค์กันดั้ม

กันพลาออริจินัลที่อิโอริ เซย์แต่งเองจากโมเดลของสไตรค์กันดั้ม ด้วยฝีมือการแต่งกันพลาของเซย์ที่สืบทอดมาจากอิโอริ ทาเคชิผู้เป็นพ่อ ทำให้บิลด์สไตรค์กันดั้มมีสมรรถนะที่สูงมาก เนื่องจากว่าช่วงแรกนั้นเซย์มีปัญหาด้านการควบคุมกันพลาจึงแทบไม่สามารถใช้บิลด์สไตรค์กันดั้มในกันพลาแบทเทิลจริงๆได้เลย จนกระทั่งได้พบกับเรย์จิที่สามารถควบคุมบิลด์สไตรค์ได้อย่างคล่องแคล่วทั้งที่เพิ่งเล่นกันพลาแบทเทิลเป็นครั้งแรก ก่อนที่ทั้งคู่จะเป็นคู่หูในการแข่งกันพลาแบทเทิลด้วยกัน

บิลด์สไตรค์กันดั้มนั้นมีอาวุธพื้นฐานเป็นปืนวัลแคนติดหัวสี่กระบอกและบีมเซเบอร์ติดเอวเท่านั้นซึ่งนับเป็นรูปแบบที่ไม่สมบูรณ์ รูปแบบที่สมบูรณ์นั้นก็คือ GAT-X105B/FP บิลด์สไตรค์กันดั้มฟุลแพ็คเกจ ซึ่งเซย์ออกแบบโดยคำนึงถึงสไตล์การบังคับของเรย์จิเป็นหลัก ส่วนสไตรเกอร์แพ็คนั้นเซย์ได้ออกแบบ บิลด์บูสเตอร์ โดยดัดแปลงมาจากสไตรเกอร์แพ็ค โอโทริ ของสไตรค์รูจ โดยเสริมส่วนปีกขนาดใหญ่คล้ายกับของฟรีดอมกันดั้มเข้าไปและมีอาวุธติดไว้เป็นบีมแคนน่อนสองกระบอก ซึ่งขณะที่ติดตั้งบิลด์บูสเตอร์นั้นบิลด์สไตรค์กันดั้มก็จะมีกำลังเพิ่มขึ้นถึง160% บิลด์บูสเตอร์นั้นก็สามารถบังคับเป็นยานแยกออกมาจากบิลด์สไตรค์ได้เหมือนโอโทริ ส่วนอาวุธอื่นๆนั้นประกอบกเวยบีมกัน บีมไรเฟิล และโล่โชแบมซึ่งเซย์สร้างจากแผ่นพลาสติกประกบกันเป็นชั้นๆ และหลังจากที่ได้พบกับยาซากะ มาโอะ ผู้ประกาศตนเป็นคู่ปรับของเซย์แล้ว เซย์ก็ได้เพิ่มบีมไรเฟิลที่เพิ่มอานุภาพจนเทียบได้กับไฮเปอร์เมกาลันเชอร์เข้าไปอีก



บิลด์สไตรค์กันดั้มนั้นได้รับความเสียหายอย่างหนักในการต่อสู้กับซาคุอเมซิงของทัตสึยะ ยูกิ และเซย์ก็ได้เอาไปปรับปรุงใหม่ให้แข็งแกร่งกว่าเดิมเพื่อใช้ในการแข่งกันพลาโลก กลายเป็น GAT-X105B/ST สตาร์บิลด์สไตรค์กันดั้ม จุดเด่นของสตาร์บิลด์สไตรค์นั้นก็คือโล่แอบซอบชิลด์ที่สามารถกางและดูดซับบีมที่ศัตรูยิงใส่เพื่อสะสมพลังงานไว้ในตัวได้ ซึ่งสตาร์บิลด์สไตรค์นั้นสามารถนำพลังงานที่สะสมไว้มาใช้ได้ด้วยดิสชาร์จซิสเต็ม โดยการสร้างพลาฟสกีพาวเวอร์เกทซึ่งสามารถปรับการใช้งานได้สามรูปแบบ คือสปีดโหมด ซึ่งยูนิเวิร์สบูสเตอร์จะกางปีกอนุภาคพลาฟสกีออกมาทำให้มีกำลังขับเคลื่อนที่สูงกว่าเดิมมาก ปีกอนุภาคพลาฟสกีนี้ยังใช้เป็นอาวุธเหมือนบีมเซเบอร์ได้ ไรเฟิลโหมด ซึ่งใช้เพิ่มพลังทำลายของลำแสงที่ยิงจากสตาร์บีมไรเฟิล และอควอโหมดซึ่งไม่เคยใช้งาน สตาร์บิลด์สไตรค์ยังมี RGซิสเต็ม (Radial General purpose) ซึ่งเปลี่ยนเป็นการใช้อนุภาพพลาฟสกีเสริมให้โครงสร้างภายในทำให้สมรรถนะของสตาร์บิลด์สไตรค์เพิ่มสูงขึ้นในทุกด้าน แต่การใช้RGซิสเต็มนั้นทำให้โครงสร้างของสตาร์บิลด์สไตรค์ต้องรับภาระอย่างมากและจะเสียหายได้เมื่อใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งสตาร์บิลด์สไตรค์นั้นจะสามารถใช้ไม้ตาย หมัดRGบิลด์นัคเคิลได้





PPGN-001 กันดั้มอเมซิงเอ็กเซีย

เดิมทีนั้น กันดั้มอเมซิงเอ็กเซียก็คือโปรเจ็คท์ A5 โครงการสร้างสุดยอดกันพลาของบริษัทPPSEโดยใช้พื้นฐานของกันดั้มเอ็กเซีย แต่หลังจากที่เคมพ์เฟอร์อเมซิงได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการต่อสู้กับจิมสไนเปอร์K9 อลัน อดัมส์จึงได้ให้PPSEส่ง A5 ที่ยังอยู่ระหว่างการพัฒนามาให้เมย์จิน คาวางุจิ ที่สาม ใช้แทน ซึ่งในรอบรองชนะเลิศนั้นทั้งสองคนก็ได้แต่งอเมซิงเอ็กเซียจนเสร็จสมบูรณ์ไปเพียง80%ให้ใช้ในการต่อสู้ได้เท่านั้น ส่วนอาวุธหลักของอเมซิงเอ็กเซียก็คือ อเมซิงGNซอร์ด ซึ่งเป็นGNซอร์ดที่ปรับปรุงให้ดูคล้ายกับGNซอร์ดรุ่นปรับปรุงที่ดัดแปลงโดยถอดโล่ออกไป ส่วนอาวุธดาบอื่นๆนั้นถูกเอาออกไปทั้งหมด ที่แขนของอเมซิงเอ็กเซียยังมีGNวัลแคนอยู่ และก็มีโล่ใหม่ อเมซิงGNชิลด์ สำหรับใช้ป้องกันตัว แม้จะมีอาวุธไม่มากนัก แต่อเมซิงเอ็กเซียก็สามารถใช้อนุภาคพลาฟสกีเปิดทรานแซมซิสเต็มเพื่อเพิ่มสมรรถนะได้เหมือนเอ็กเซีย ซึ่งในสภาพที่ไม่สมบูรณ์นี้จะใช้ในเป็นเวลาจำกัดเท่านั้น

ก่อนการแข่งรอบชิงชนะเลิศ อลันกับยูกิก็แต่งอเมซิงเอ็กเซียจนสมบูรณ์โดยติดตั้งแบ็คแพ็คทรานแซมบูสเตอร์ที่เพิ่มความเสถียรของทรานแซมซิสเต็มให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น แต่ก็ถูกไนน์ บาธ นักวิจัยของสถาบันฟลานา เอาไปดัดแปลงต่ออีกขั้นเป็น กันดั้มเอ็กเซียดาร์คแมตเตอร์ โดยเสริมเอมบอดีซิสเต็มให้ประธานมาชิตะสามารถบงการยูกิด้วยหินอาริสตาของตนเองได้ นอกจากเอมบอดีซิสเต็มแล้ว อเมซิงGNซอร์ดก็ถูกดัดแปลงเป็น ดาร์คแมตเตอร์ไรเฟิล โดยเอาส่วนดาบออก แต่ดาร์คแมตเตอร์ไรเฟิลก็มีส่วนที่เหมือนโล่ขนาดเล็กซึ่งใช้สร้างบีมเซเบอร์ที่สามารถใช้ฟันป้องกันได้แม้แต่ลำแสงของดิสชาร์จไรเฟิลโหมดของสตาร์บิลด์สไตรค์ GNวัลแคนที่แขนยังสามารถสร้างบีมเซเบอร์ได้ กันดั้มเอ็กเซียดาร์คแมตเตอร์ยังมีดาบอีกสองเล่มคือไบรนิเคิลเบลด ซึ่งเป็นดาบน้ำแข็งซึ่งแช่แข็งได้แม้แต่บีมของบีมเซเบอร์ และดาบเพลิง โพรมิเนนซ์เบลด ดาร์คแมตเตอร์บูสเตอร์นั้นยังสามารถแยกออกไปโจมตีระยะไกลจากเอ็กเซียดาร์คแมตเตอร์ได้ โดยส่วนหัวจะเป็นGNแคนน่อน และส่วนปีกก็เป็นใบมีด
Games Super-Robot-Wars Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา