Mecha Story: ทวินไดรฟ์ ของแท้และดั้งเดิม!

ตั้งแต่ปี 1977...น่าจะเก่าสุดแล้วน่ะนะ



(ใครเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องอื่นช่วยบอกว่าคิดว่าเป็นเรื่องอะไรด้วยนะครับ)



EDIT: ขอเอารูปTIEส่วนใหญ่ออกนะครับ จู่ๆแบนด์วิธของPhotobucketที่เคยพอแบบเดือนต่อเดือนก็พุ่งกระฉูด แต่มันดันไม่ให้ดูรูปที่คนเห็นมากๆแล้ว ผมเลยเดาเอาเองว่าชุดนี้เป็นตัวการ เพราะรูปหายากใช้ได้ (เปลี่ยนไปรูปนึงพอไม่ให้เงียบเหงา)





TIE/LN TIEไฟเตอร์

ยานขับไล่ที่ไซนาร์ฟลีทซิสเต็มพัฒนาให้จักรวรรดิกาแล็กติก รูปแบบของTIEไฟเตอร์นั้นดัดแปลงมาจากยานT.I.E และVวิงซึ่งไซนาร์เคยผลิตให้สาธารณรัฐกาแล็กติก ชื่อTIEนั้นมาจากเครื่องยนต์ทวินอิออน (Twin Ion Engine) ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อน ไซนาร์นั้นได้พัฒนารุ่นต้นแบบออกมาหลายรุ่น จนมาลงตัวที่ TIE/LN (LiNe) ซึ่งนับว่าเป็นรูปแบบมาตรฐาน



TIEไฟเตอร์นั้นได้รับการออกแบบให้ผลิตได้ง่ายที่สุดและดูแลรักษาง่ายด้วย ระบบขับเคลื่อนของTIEไฟเตอร์นั้นไม่มีส่วนที่เคลื่อนไหวได้เลย TIEไฟเตอร์ไม่มีเครื่องกำเนิดสนามพลัง ไฮเปอร์ไดรฟ์ ระบบยังชีพ หรือแม้แต่อุปกรณ์สำหรับลงจอดด้วยตนเอง โดยปกติแล้วTIEไฟเตอร์จึงใช้วิธีแขวนไว้กับราวในยานแม่ และนักบินของTIEไฟเตอร์ก็ต้องสวมชุดอวกาศแบบเต็มตัวด้วย รูปแบบของTIEไฟเตอร์นั้นสะท้อนแนวคิดของจักรวรรดิที่ถือว่าทั้งยานรบและกำลังคนเป็นเป็นสิ่งที่สละได้ทั้งนั้น นักบินของTIEไฟเตอร์แต่ละคนจะถูกเรียกด้วยรหัสหมายเลขแทนชื่อและได้รับการฝึกให้พร้อมสละชีพเพื่อจักรวรรดิได้



อาวุธของTIEไฟเตอร์ก็คือเลเซอร์แคนนอนสองกระบอก ซึ่งใช้พลังงานจากเครื่องกำเนิดพลังงานเสริมในตัวจึงมีพลังทำลายสูงทีเดียว แผงด้านข้างของTIEไฟเตอร์นั้นเป็นแผงเซลสุริยะเสริมพลังงาน ส่วนตัวยานทรงกลมของTIEไฟเตอร์นั้นนับว่าเล็กเมื่อเทียบกับแผงเซลสุริยะ ซึ่งก็เป็นเพราะไม่มีสนามพลัง นักบินจึงต้องพึ่งฝีมือในการหลบการโจมตีเอาเอง ค็อกพิตของTIEไฟเตอร์นั้นนับว่าแคบมากเลยทีเดียวและแผงสุริยะก็บังวิสัยทัศน์เวลาถูกโจมตีจากด้านข้างด้วย จริงๆแล้วค็อกพิตของTIEไฟเตอร์มีระบบกันกระแทกด้วยสนามแรงโน้มถ่วงและระบบดีดที่นั่งสละยานด้วย แต่ในอวกาศนั้นปกติแล้วนักบินไม่ค่อยอยากเสี่ยงตายช้าๆ TIEไฟเตอร์สามารถอีพเกรดติดไฮเปอร์ไดรฟ์ สนามพลัง หรือมิสไซล์เพิ่มได้



ลักษณะของTIEไฟเตอร์นั้นทำให้นักบินของกลุ่มสัมพันธมิตรเรียกชื่อเล่นว่า "ลูกตา" การโจมตีของTIEไฟเตอร์นั้นจะใช้จำนวนเข้าว่าเป็นหลัก กลุ่มสัมพันธมิตรนั้นก็มีTIEไฟเตอร์ที่ยึดได้อยู่ด้วย แต่เกือบทั้งหมดนั้นเก็บไว้ใช้ในภารกิจสายลับเป็นหลัก



TIE/x1 TIEแอดวานซ์

แรกเริ่มนั้นเป็นTIEไฟเตอร์ที่เรธ ไซนาร์ หัวหน้าวิศวกรออกแบบให้ตามที่ดาร์ธเวเดอร์ต้องการในปีที่ก่อตั้งจักรวรรดินั่นเอง เครื่องยนต์ทวินอิออนจะยื่นออกไปด้านหลัง ซึ่งไซนาร์ก็ได้แก้รูปแบบของแผงสุริยะให้ยาวขึ้นตามลำยานและปรับให้ส่วนบนและล่างพับเข้าด้านใน ทำให้พื้นที่รับแสงมีขนาดเพิ่มขึ้นแต่เป็นเป้าที่เล็กลง ความเร็วของTIEแอดวานซ์นั้นเพิ่มจากรุ่นมาตรฐานเล็กน้อย แต่มีความทนทานสูงขึ้นมากโดยใช้โลหะผสมดูราสตีลทำตัวยานและติดตั้งเครื่องกำเนิดสนามพลัง เลเซอร์แคนน่อนมีอานุภาพสูงขึ้นและยังติดตั้งมิสไซล์ลันเชอร์เอาไว้ด้วย ระบบเล็งเป้าของTIEแอดวานซ์นั้นไม่สามารถใช้แจมเมอร์รบกวนได้ แต่นักบินก็ต้องปรับแต่งการทำงานเองจึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด TIEแอดวานซ์มีไฮเปอร์ไดรฟ์ในตัว แต่ดาร์ธเวเดอร์เป็นไซบอร์กอยู่แล้วจึงยังไม่ได้ติดตั้งระบบยังชีพ



หลังจากสร้างให้เวเดอร์ไปแล้ว ไซนาร์ก็ได้เสนอผลิตTIEแอดวานซ์ขายให้จักรวรรดิแบบจำนวนมากแทนTIEไฟเตอร์ แต่นอกจากราคาจะแพงแล้ว ทางจักรวรรดิยังมีความกังวลว่าถ้ายานขับไล่ทั่วๆไปมีไฮเปอร์ไดรฟ์จะทำให้ต้องยกเครื่องสายการบัญชาการที่มีอยู่เกือบทั้งหมด และอาจมีทหารหนีทัพมากขึ้นด้วย จึงได้สั่งซื้อเป็นจำนวนจำกัดให้นักบินยศสูงเท่านั้น ส่วนดาร์ธเวเดอร์ที่เป็นเจ้าของเครื่องต้นแบบนั้นได้ใช้งานTIEแอดวานซ์เป็นยานประจำตัวโดยทำการปรับแต่งสมรรถนะเองไปตลอดจนเสียชีวิต



TIE/IN TIEอินเตอเซปเตอร์

หนึ่งในTIEซีรีส์ที่พัฒนาต่อมาจากTIEแอดวานซ์และปรับรูปแบบโดยไซนาร์เพื่อขายจำนวนมากให้จักรวรรดิ TIEอินเตอเซปเตอร์ ใช้ระบบของTIEแอดวานซ์แต่เอาสนามพลังกับไฮเปอร์ไดรฟ์ออกไป เปลี่ยนโลหะที่ใช้ผลิตเป็นไททาเนียมเหมือนรุ่นมาตรฐาน ปีกแผงสุริยะนั้นได้แก้ดีไซน์โดยเปิดช่องให้นักบินสามารถมองด้านข้างได้และเพิ่มเลเซอร์แคนน่อนไว้ที่ปลายปีกรวมสี่กระบอก ระบบขับเคลื่อนของTIEอินเตอเซปเตอร์นั้นเมื่อรวมกับน้ำหนักที่เบาลงแล้วมีความเร็วและความคล่องตัวมากกว่าTIEแอดวานซ์เสียอีก ระบบเล็งเป้าของTIEอินเตอเซปเตอร์ยังมีประสิทธิภาพในการต่อสู้ด้วยความเร็วสูงมากและสามารถใช้งานได้แม้จะถูกแจมเมอร์ของยานแม่รบกวน TIEอินเตอเซปเตอร์ยังสามารถอัพเกรดติดไฮเปอร์ไดรฟ์และสนามพลังได้เหมือนTIEไฟเตอร์ และในภายหลังจักรวรรดิยังได้เปลี่ยนระบบอาวุธโดยใช้บลาสเตอร์แคนน่อนแทนเลเซอร์แคนน่อน และติดเครื่องยิงหัวรบอเนกประสงค์ไว้



TIE/sa TIEบอมเบอร์

TIEอีกรุ่นที่ปรับรูปแบบมาจากTIEแอดวานซ์ โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานเหมือนเครื่องบินทิ้งระเบิดแทน TIE/gt ที่ใช้อยู่ก่อนหน้า ส่วนตัวยานของTIEบอมเบอร์นั้นกลายเป็นแบบลำยานแฝดซึ่งเป็นค็อกพิตเคียงกับเครื่องยิงหัวรบเอนกประสงค์ แผงโซลาร์เป็นแบบเดียวกับTIEแอดวานซ์และใช้โลหะผสมไททาเนียมกับควอดาเนียมทำตัวเครื่อง แต่ไม่มีสนามพลังหรือไฮเปอร์ไดรฟ์ TIEบอมเบอร์นั้นบรรทุกระเบิดหรือจรวดได้15ตันและมีความคล่องตัวกลางอากาศพอให้ทิ้งระเบิดภาคพื้นดินได้อย่างแม่นยำ ถ้าพบเป้าหมายเป็นยานรบจากระยะไกลนั้นจะสามารถยิงมิสไซล์โจมตีได้ แต่ถ้าเป็นระยะใกล้แล้วTIEบอมเบอร์นับว่าช้าและไม่คล่องตัวพอที่จะยิงสู้กันได้



TIE/D TIEดีเฟนเดอร์

ยานขับไล่สมรรถนะสูงที่ไซนาร์ผลิตvvd,kก่อนที่จักรพรรดิพัลพาทีนจะเสียชีวิตไม่นานนัก TIEดีเฟนเดอร์นับว่าเป็นยานขับไล่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้นและออกมาเพื่อให้นักบินชั้นหนึ่งใช้งานโดยเฉพาะ นักบินของTIEดีเฟนเดอร์นั้นจะได้รับคัดเลือกจากคนที่ใช้TIEอินเตอเซปเตอร์ออกรบมา20ภารกิจขึ้นไปเท่านั้นและยังต้องรับการฝึกพิเศษเพิ่มอีก ค่าใช้จ่ายในการผลิตTIEดีเฟนเดอร์นั้นสูงกว่าTIEไฟเตอร์มากกว่าห้าเท่าตัว



ต้นแบบของTIEดีเฟนเดอร์ก็คือ TIE/x7 และมีทั้งสนามพลังและไฮเปอร์ไดรฟ์ในตัว ตัวยานทำจากโลหะผสมไททาเนียม แต่แผงสุริยะแบบTIEอินเตอเซปเตอร์ที่เพิ่มเป็นสามแผงนั้นทำจากโลหะผสมควอดาเนียมซึ่งทนทานมาก เครื่องยนต์ทวินอิออนนั้นเป็นรุ่นใหม่ที่มีกำลังมากกว่าเดิมมากและมีความเร็วสูงสุดมากกว่าTIEไฟเตอร์เกือบ40% (คาดว่าถ้าทาสีแดงด้วยจะได้ถึง400%) ที่แผงสุริยะยังมีไอพ่นปรับมิศทางไว้ทำให้ความคล่องตัวสูงมาก แผงสุริยะด้านล่างสองแผงนั้นติดเลเซอร์แคนน่อนเหมือนเดิม แต่ด้านบนเปลี่ยนเป็นอิออนแคนน่อนซึ่งยิงได้ต่อเนื่องกว่า ด้านล่างของตัวยานจะมีเครื่องยิงหัวรบเอนกประสงค์ นอกจากนั้นTIEดีเฟนเดอร์ยังติดตั้งแทรคเตอร์บีมเอาไว้ ซึ่งปกติแล้วจะใช้หยุดการเคลื่อนไหวของศัตรูในการต่อสู้ระยะใกล้ แต่ก็นำมาประยุกต์ใช้เป็นเหมือนสมอยึดยานไว้กับวัตถุขนาดใหญ่เพื่อให้เลี้ยวเปลี่ยนทิศทางเป็นวงแคบได้ เนื่องจากTIEดีเฟนเดอร์นั้นนับเป็นสุดยอดยานรบ เวลาจอดยานจึงมีระบบพาสเวิร์ดไม่ให้คนอื่นขโมยไปใช้ได้



โชคดีของกลุ่มสัมพันธมิตรก็คือผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาTIEดีเฟนเดอร์ นายพลซาริน เดเมเทรียสนั้นพยายามก่อรัฐประหารชิงอำนาจจากพัลพาทีน สงครามภายในจักรวรรดินั้นทำให้มีTIEดีเฟนเดอร์ที่ราคาแพงอยู่แล้วได้ใช้กับกลุ่มพันธมิตรเพียงไม่กี่เครื่องเท่านั้น





...ขืนลงแค่นี้ชื่อกระทู้จะกลายเป็นโกหกคำโตเพระาไม่มีหุ่นสักตัว เอาทวินไดรฟ์รุ่นใหม่ไปตัวก็แล้วกัน





NVX-03 ฟอร์เตกิกัส

หุ่นยนต์เครื่องที่สามที่ศจ.คลิฟฟอร์ด ไกแก๊กแห่งกลุ่มรีเทคพัฒนาโดยการใช้เทคโนโลยีของอารยธรรมโบราณซึ่งค้นพบในโบราณสถานที่ขั้วโลกใต้ ฟอร์เตกิกัสนั้นต่างจากเอลชิววาเลียหรือบรานช์เนจตรงที่ได้รับการออกแบบเพื่อต่อสู้กับหุ่นยนต์ของรุอินาซึ่งแข็งแกร่งมากโดยเฉพาะ ฟอร์เตกิกัสใช้การประกอบร่างของซูเปอร์โรบ็อทสองเครื่องคือ AVX-03 กานาดอร์ กับ AVX-04 สเตรกา การเชื่อมเรสอาคานาสองยูนิตเข้าด้วยกันนั้นทำให้ฟอร์เตกิกัสมีพลังมหาศาล และในกรณีที่ศัตรูมีจำนวนมากก็สามารถแยกออกเป็นสองเครื่องให้รับมือได้ง่ายขึ้น





เนื่องจากตั้งใจให้มีพลังมากเป็นหลัก ทั้งกานาดอร์และสเตรกาจึงมีขนาดใหญ่ไปด้วย ทั้งคู่สามารถบินได้ด้วยระบบควบคุมแรงโน้มถ่วง กานาดอร์นั้นมียูนิตอาวุธที่เรียกว่า ฟิกา อยู่ที่ไหล่ ซึ่งใช้ยิงโจมตีจากระยะไกลเป็นเอดจ์บลาสเตอร์ หรือปล่อยออกไปโจมตีเป็นหอกแสง อัลติเมทแลนเซอร์ ได้ โล่ที่แขนสองข้างติดกงเล็บ เจโนไซด์คลอว์ เอาไว้ และมีดาบฟัลเชียนเซเบอร์เป็นอาวุธเสริม กานาดอร์มีท่าไม้ตายคือ ฮีทไดรฟ์ ซึ่งใช้ความร้อนหุ้มตัวเองแล้วพุ่งชนศัตรู ส่วนสเตรกานั้นได้รับการออกแบบให้มีเกราะหนาและกำลังมากกว่า แบ็คแพ็คที่เหมือนผ้าคลุมด้านหลังนั้นนอกจากจะเป็นระบบบังคับแรงโน้มถ่วงแล้วยังฉาบบีมโคตไว้ การโจมตีของสเตรกานั้นใช้กระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์พลาสมาที่ติดตั้งไว้เป็นหลัก



เมื่อทั้งคู่รวมกันเป็นฟอร์เตกิกัส ก็จะดึงฟิกามาใช้ได้ทั้งสร้างลูกตุ้มบีม ประกอบกันแบบสองปลายเพื่อใช้ขว้านเป็นกงจักรมูนเซอเคิล หรือเพิ่มกำลังเป็นดาบยาว สตอร์มเบลด ก็ได้ ที่หน้าอกของฟอร์เตกิกัสนั้นสามารถยิงลำแสงกำลังสูง กิกาบลาสเตอร์ ได้ ส่วนท่าไม้ตายก็คือไรอัทบัสเตอร์ ซึ่งใช้ฟิกาสองอันมาประกอบสร้างบีมซอร์ดขนาดใหญ่เล่มเดียว
Super Robot Wars Games Mecha Story

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา