[Anime]อนิเมที่อยากดูประจำ Fall 2008

ตอนนี้ก็ใกล้จะหมดไตรมาสที่สามของปีแล้ว อนิเมหลายๆก็เข้าสู่ช่วงสุดท้ายเนื้อหาต่างๆก็เข้มข้นขึ้นทุกที สำหรับผมแล้วในช่วงครึ่งหลังของปีนั้นมีอนิเมที่ติดใจน้อยมากเหลือเกิน ถึงตอนนี้ที่ติดตามอย่างจริงจังก็เหลือเพียง Code Geass และ Macross Frontier เท่านั้น ซึ่งทั้งสองเรื่องก็กำลังขมวดปมเพื่อจะปิดฉากเรื่องลง(หรือว่าบางเรื่องได้รับความนิยมจนแอบออกต่ออีกภาคก็ไม่รู้) และก็มี Detroit Metal City ที่ฮาสุดๆอีกเรื่องที่ตัดสินใจดู ฮา(เสื่อม) มากครับ





สำหรับฤดูใบไม่ร่วงปีนี้มีอนิเมที่อยากดูอยู่หลายเรื่อง ก็เลยอยากจะมาแนะนำหาเพื่อนดูกันสักหน่อย อันแนวทางการเลือกอนิเมดูนั้นของใครก็มีวิธีต่างกัน รสนิยมก็ต่างกัน ใครที่สนใจเรื่องใหนและไม่อยู่ในนี้ จะแนะนำกันก็ได้นะครับ























Time of Eve (イヴの時間)


Official website


Time of Eve จริงๆแล้วเป็น ONA (Original Network Animation) ฉายทางบรอดแบนด์ ตอนนี้เป็นตอนที่ 2 แล้ว สร้างโดยบริษัทเล็กๆที่ชื่อ Studio Rikka ซึ่งเคยผลิตอนิเมชั่นสั้นๆแต่ยอดเยี่ยมอย่าง Pale Cocoon มาแล้ว ตัวเรื่องจะเกี่ยวกับโลกอนาคตที่แอนดรอยกลายเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับมนุษย์ ดูเผินๆแล้วภายนอกของแอนดรอย์ก็ไม่มีอะไรต่างจากมนุษย์เลยนอกจากวงแหวนสัญลักษณ์ทีลอยอยู่เหนือหัว แต่แล้วริคุโอะพระเอกของเรื่องก็บังเอิญไปเจอร้านคาเฟ่เล็กๆที่มีป้ายเขียนว่าห้ามแบ่งแยกระหว่างมนุษย์กับแอนดรอยด์ ในนั้นเองริคุโอะก็ได้พบสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ





อนิเมเรื่องนี้ (จากที่ดูในตอนแรก) มีคุณภาพในระดับสูง และมีเทคนิคภาพ 3D ที่ผสานกับตัวละครอย่างกลมกลืน แนวคิดต่างๆในเรื่องจับประเด็นได้น่าสนใจและทันสมัย มีความน่าติดตามในตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามมันก็เป็นอนิเมตอนสั้นๆ ยาวเพียง 15 นาทีต่อตอนเท่านั้น เวลาในการรอคอยตอนใหม่แต่ละครั้งช่างเป็นเรืองที่ทรมานเหลือเกิน
โอกาสได้ดูจนจบ : 100% เพราะมันสั้นเหลือเกิน





















Hyakko (ヒャッコ)


Official website


เฮียกโกะเป็นอนิเมชั่นที่สร้างจากมังงะชื่อเดียวกัน ซึ่งมันก็มีขายในเมืองไทยโดยสำนักพิมพ์รักพิมพ์ ผมอ่านเรื่องนี้ครั้งแรกจากการเช่าที่ร้านแถวบ้าน และก็ชอบมากจนต้องไปซื้อมาเก็บอีกที มันเป็นเรื่องราวสนุกสนานของนักเรียนหญิงสี่คน แต่ละคนก็มีบุคลิกนิสัยใจคอแตกต่างกัน แกนของเรื่องคือสาวน้อยที่ชื่อ คาเงยาม่า โทราโกะ ซึ่งมีนิสัยไฮเปอร์ใจเกินร้อย แม้เรื่องราวๆจะเน้นสนุกสนานขำขัน แต่ในหลายๆครั้ง มักจะแฝงไว้ด้วยอารมณ์นิ่งๆสบายๆอยู่เสมอ





จุดสำคัญอีกอย่างที่จะเรียกร้องให้โอตาคุมาดูอนิเมเรื่องนี้ก็คือ ฮิราโนะ อายะ ที่มาพากย์เป็น โนโนมูระ อามิ สาวขี้อายในเรื่อง และยังร้องเพลงปิดที่ชื่อ Namida Namida Namida (涙 NAMIDA ナミダ) ซึ่งอาจจะทำให้โอตาคุอายะหลายๆคนไม่พลาดที่จะติดตาม




โอกาสได้ดูจนจบ : 80% ชอบเป็นการส่วนตัว แต่อาจจะผิดหวังจากคุณภาพอนิเมได้
























CLANNAD ~After Story~


Official website


สุดยอดอนิเมชั่นจากเกียวอานิ(เกียวโตอนิเมชั่น) Clannad เต็มไปด้วยสาวน้อยน่ารักมากมายหลากหลายบุคลิก ทั้งผีสาว, เพื่อนซึนสมัยเด็ก, อัจฉริยะปัญญานิ่ม, สาวชอบใช้กำลัง, สาวขี้อาย ฯลฯ ด้วยคุณภาพอนิเมชั่นอันนุ่มนวลงดงามระดับเฟรมต่อเฟรมของเกียวอนิผสมผสานกับเรื่องราวจากเกมวิชวลโนเวลที่ได้รับความนิยมของค่าย Key ปัจจัยอันยอดเยี่ยมมากมายนี้ Clannad จึงทำยอดขาย DVD ได้อย่างถล่มทลาย เหล่าโอตาคุทั่วฟ้าเจแปน(และไทย?)ต่างโห่ร้องด้วยความยินดี สิ่งเดียวที่อนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่มีนั่นก็คือ...ความสนุก





ผมเลือกที่จะดูเรื่องนี้เพราะเห็นว่ามีแฟนๆเฉพาะกลุ่มเยอะ และมันก็เป็นอนิเมชั่นที่สวยงามดี อนิเมเรื่องเป็นอนิเมแนวฮาเรม สาวๆรุมรักพระเอก เหล่าสาวๆแทบทุกคนได้รับความนิยมล้นหลามไม่ว่าจะเป็นเคียว, โทโมโยะหรือฟูโกะ เว้นไว้แต่เพียงคนเดียวนั่นก็คือฟุรุคาว่า นางิสะนางเอกของเรื่อง และก็เป็นผู้ที่เข้าวินเอาชนะใจพระเอกเสียด้วย ลืมตัวไปว่านี่เป็นรีวิวอนิเมในอนาคตที่อยากดู...เกือบจะเผลอบ่นเรื่องอนิเมซีซันที่แล้วแทนซะแล้ว......ลืมๆมันไปซะเถอะ





สิ่งที่ทำให้ผมต้องดู Clannad นั้นมีสองอย่าง อย่างแรกคือภาระที่ต้องสะสางอันต่อเนื่องมาจาก 24 ตอนที่เสียเวลาดูไป หากผมไม่ดูมันต่อ มันก็จะกลายเป็นเพียงประสปการณ์ชอกช้ำอันไร้คำตอบ ผมต้องหาคำตอบให้กับมัน! อีกเหตุผลนึงก็คือผมอยากรู้ว่าสวนหลังบ้านของโคโตมิมันจะถูกลืมโดยสิ้นเชิงหรือเปล่า




โอกาสได้ดูจนจบ : 80% ไม่ชอบเป็นการส่วนตัว แต่มันเป็นพันธสัญญาที่จะต้องสะสางกับโคโตมิจังให้จบ





















Kannagi (かんなぎ)


Official website


สารภาพตรงๆว่าผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอนิเมเรื่องนี้เลย สิ่งที่ทำให้ผมอยากดูนั้นก็คือภาพ 1 ภาพที่บังเอิญเซิร์สไปเจอ หน้าปกมันสวยดีครับ ชอบ อยากดู รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับมิโกะสามคนกับเรื่องบ๊องส์ๆบวมๆ รายละเอียดอย่างอื่นไม่รู้! สร้างโดยสตูดิโอ A1 ได้ยินว่ามันเป็นสตูที่มีอยู่คนเดียว อย่างอื่นผมก็ไม่รู้!!







โอกาสได้ดูจนจบ : 45% เริ่มต้นด้วยเหตุผลอ่อนๆ หากคุณภาพอนิเมชั่นไม่ประทับ ก็คงเลิกดูทันที




















Shikabane Hime Aka (屍姫 赫)


Offical website


อนิเมชั่นเรื่องนี้สิ่งแรกที่ทำให้อยากดูไม่ใช่เรื่องราวต้นฉบับหรือตัวละครใดๆทั้งสิ้น เหตุผลที่มันถูกจับตามองก็เพราะว่ามันคืออนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของสตูดิโอชั้นเทพอย่าง GAINAX หลังจากสร้างตำนานมหา EPIC อย่าง Gurren Lagann ไว้ GAINAX ก็ว่างเว้นไปพักนึงจนได้มาจับมังงะเรื่องชิคาบาเนะฮิเมะ อากะ ทำอนิเมฉายทางทีวีอีกครั้ง





ชิคาบาเนะฮิเมะเป็นเรื่องราวของ Makina Hoshimura เจ้าหญิงซากศพ ที่ออกตามล่า 108 ศพ เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้น ธีมของเรื่องจะมืดมนและไร้ความหวัง ซึ่งก็เข้าทางของ GAINAX อยู่พอดี


โอกาสได้ดูจนจบ : 90% ในเมื่อมันเป็น GAINAX จึงแทบไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธ





















Ga-Rei Zero (喰霊 -零-)


Offcial website


กาเรย์ เป็นอนิเมชั่นอีกเรื่องที่สร้างจากมังงะ มีเนื้อหาเชยๆอย่างพระเอกบังเอิญมองเห็นวิญญาณ แล้วก็ได้มาเจอกับนางเอกนักปราบผี แล้วก็จับคู่กันออกปราบผีตัวโน้นตัวนี้ ฟังดูเหมือนมังงะสมัยนิยมที่หาอ่านได้ทั่วไปสินะ แต่มันไม่ใช่เลย แม้เรื่องมันจะเชยๆ แต่มังงะเรื่องนี้กลับอ่านได้สนุกกว่าที่คิด


จังหวะการเดินเรื่องและมุขตลกที่สอดแทรกทำได้ดี นางเอกบุคลิกเดิมๆแต่ก็ทำให้กระชุ่มกระชวยได้ ปีศาจที่ออกแบบมาทั้งเท่ทั้งฮา แต่ปัญหามันก็มีอยู่ตรง.....





คำว่า Zero ที่ต่อท้ายน่ะสิ อนิเมเรื่องได้"ดัดแปลง"จากมังงะ แว๊บแรกที่ผมเห็นภาพของ Official website สิ่งที่แว๊บเข้ามาในหัวก็คือ "เรื่องอะไรวะ" มันเป็นภาพของหน่วยอะไรสักอย่างที่แต่งตัวเหมือนหน่วยดับเพลิง มันไม่มีตัวละครที่คุ้นหน้าอยู่เลย มีผู้หญิงตรงกลางที่หน้าตาคล้ายๆคางุระนางเอกนิดหน่อย แต่ชิโระจังข้างกายเธอหายไปใหน? พระเอกเคนสุเกะทำไมทำหน้าซีเรียส พวกล่ำๆข้างหลังนั่นเป็นใคร สาวน้อยตรงหัวมุมนั้นทำไมทำหน้าตาน่ารัก...ตัวละครหญิงในเรื่องมีแค่สองคน ถ้าไม่ใช่คางุระก็จะเป็นเคียวโกะ แต่เคียวโกะไม่ค่อยยิ้มนี่นา ยิ่งทำท่าอาโนเนะยิ่งไม่มีทาง.... มันเรื่องเดียวกันหรือเปล่าวะเนี่ย!





โอกาสได้ดูจนจบ : 45% สรุปว่าคงเป็นคนละเรื่องกันน่ะ ท่าทางจะไม่ฮา แต่ลองดูซะนิดคงไม่เสียหาย





















ef - a tale of melodies.


Official website


ในที่สุด! นี่หล่ะ Climax ของอนิเมชั่นซีซันนี้เลย ef - a tale of melodies. ภาคต่อของ ef - a tale of memories. ที่สร้างความประทับใจมาแล้ว อนิเมเรื่องนี้สร้างโดยสตูดิโอสุดแนวอย่าง SHAFT กำกับโดยโอนุมะ ชิน เหมือนภาคแรก ตัวเรื่องหลักนำมาจากเกมแนววิชวลโนเวลชื่อ ef - a fairy tale of the two. ในเวอร์ชั่นอนิเมนั้นภาคแรกได้จับเอาเรื่องราวของมิยามุระ มิยาโกะ, ชินโด เคย์ และ ชินโด จิฮิโระ มานำเสนอ ส่วนในภาคต่อที่กำลังจะฉายนั้นเป็นเรื่องของ ฮายามะ มิซึกิ กับ อามามิยะ ยูโกะ และบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด





ไม่มีอะไรจะต้องแนะนำสำหรับเรื่องนี้ ef นั้นสร้างแรงปะทะให้กับคนดูเฉพาะกลุ่มได้รุนแรงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ผู้ชม ef ส่วนมากจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆได้ทันที กลุ่มแรกจะบอกว่ามันยอดเยี่ยมและไร้ที่ติ กลุ่มหลังจะบอกว่าสับสนดูไม่รู้เรื่อง และไม่สามารถดูได้จนจบ ล่าสุด Official Website ได้ประกาศชื่อเพลงเปิดออกมาแล้วว่า ชื่อเพลง ebullient future ร้องโดย ELISA คนเดิม ซึ่งเป็นไปตามคาดว่าชื่อเพลงจะมีการเล่นกับตัวอักษรว่า ef เหมือนอย่างทุกครั้ง (eternal feather, euphoric field, emotion flutter) และเว็บไซท์ยังเปิดเผยถึงวันวางจำหน่าย ED ทั้งสองเพลงที่ร้องโดยคนพากย์ตัวละครนำทั้งสองคน แต่ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อเพลง ซึ่งหมายความว่า ชินโด นางิ (ตัวละครหญิงอีกคนนึง เป็นพี่สาวของฮิโระโนะ ฮิโระ ในภาคแรก) นั้นน่าจะไม่มีเพลงปิดเป็นของตัวเองและไม่น่าจะมีส่วนสำคัญในเนื้อเรื่องมากนัก




ef ภาคแรกเคยส่งผลกระทบต่อชีวิตและอารมณ์ของผมมาแล้ว หลังจากจบตอน 7 และตอน 11 อาทิตย์นั้นทั้งอาทิตย์ของผมไม่เป็นสุข เต็มไปด้วยความทุกข์และเศร้าหมอง วันเวลาที่ผ่านไปแต่ละนาทีช่างเชื่องช้าและเนิบนาบ คืนวันอาทิตย์ถึงเช้าวันจันทร์ ผมรีเฟรช Tokyotoshokan ซ้ำซากราวกับว่าโลกนี้ไม่มีสิ่งใดอีกแล้วให้กระทำ เรื่องราวธรรมดาทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ถูกนำเสนอได้อย่างวิจิตรและเสียดแทง แม้จะเจ็บปวด แต่ก็ไม่อาจจะหยุดยั้งที่จะรับรู้ได้








โอกาสได้ดูจนจบ : 120% ต่อให้ LHC มันจะสร้างแบล็คโฮลทำลายโลก ผมก็จะเอาชะแลงไปกอบกู้สถานการณ์และทุ่มเททั้งชีวิตทำทุกวิธีทางเพื่อให้อนิเมชั่นเรื่องนี้ได้ฉายจนจบ




เท่าที่มองผ่านๆแล้วมีความรู้สึกอยากดูก็มีประมาณเท่านี้ อาจจะมีเพิ่มมีลดได้แล้วแต่อารมณ์ บอกซ้ำอีกครั้งนึงละกัน ใครมีเรื่องอะไรจะแนะนำก็เสนอมาได้เลยนะครับ อยากเห็นมุมมองคนอื่นบ้าง









ชี้แจงว่าพอดีเห็นหมวด News ของ GG มันน่าเบื่อว่างเปล่า แล้วได้เขียนอะไรทันเหตุการณ์ไว้พอดี

ก็เลยเอามาเผยแพร่ซะหน่อย บทรีวิวแนะนำแบบไม่เป็นทางการนี้ได้ทำการเผยแพร่ทั้งหมดสามที

ดังนี้






บล๊อกของผม:http://rh.gamer-gate.net/blog/




และก็ที่:Anime.in.th http://anime.in.th/




แล้วก็ที่นี้



ไม่ได้มีเจตนาจำกัดการเผยแพร่แต่อย่างใด แค่จะโฆษณาเว็บสองอันนี้เฉยๆ lol
News

ร่วมแสดงความเห็น

ติดต่อเรา